วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ประสบการณ์การผ่าตัด "ฝีคัณฑสูตร" กับ ศ.ดร.อรุณ โรจนสกุล

ประสบการณ์การผ่าตัด "ฝีคัณฑสูตร" (Fistula in ano) กับ ศ.ดร.อรุณ โรจนสกุล
เนื่องจากผมได้รับการตรวจวินิจฉัยจาก อาจารย์อรุณว่าเป็นฝีคัณฑสูตร เลยพยายามค้นหาข้อมูลต่างซึ่งยังมีข้อมูลน้อยมากที่เป็นภาษาไทย ผมเลยคิดว่าระหว่างการพักฟื้นแผลผ่าตัดนี้อยากจะเขียนบทความเพื่อเป็นวิทยาทาน ให้กับคนที่กำลังจะเป็นหรือคนที่เป็นแล้วแต่อายหมอไม่กล้าไปตรวจ หรือกลัวการผ่าตัดก็แล้วแต่ให้รู้จักและเข้าใจฝีคัณฑสูตร

รู้จัก "ฝีคัณฑสูตร" กันก่อน

ก่อนอื่นขอแนะนำทำความรู้จักฝีคัณฑสูตรเสียก่อน คนทั่วไปพอได้ยินว่าเป็นเป็น "ฝี" ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ต้องถึงขั้นนอนโรงพยาบาลผ่าตัด แต่จริงๆแล้ว "ฝีคัณฑสูตร" ไม่ใช่ฝีธรรมดาที่ขึ้นตามผิวหนังและไม่ใช่ญาติกับโรคริดสีดวง(จริงแล้วอันตรายกว่าริดสีดวงอีก) มีขบวนการเกิดดังนี้

  1. ต่อมผลิตเมือกบริเวณปลายลำไส้ (เมือกที่ช่วยให้เราถ่ายได้สะดวกลื่นๆ) เกิดการอุดตัน ด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ที่ทุกวันนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้ และคนที่เป็นมันไม่รู้ตัวในระยะนี้
  2. เกิดหนองตรงต่อมเมือกนั้นแล้วเซาะออกจากผนังลำไส้ ทำทางเป็นท่อเล็กๆเดินทางไปมุ่งลงไปยังก้นหรือบริเวณรอบปากทวาร ซึ่งเส้นทางไม่แน่นอน บางที่ก็แตกแขนงเป็นรากไม้ลงไป ของผมโชคดีที่เป็นแบบท่อเดียวไม่มีแตกแขนง
  3. เมื่อท่อหนองนี้เดินทางมาจนถึงผิวหนังแล้วจะเกิดอาการอักเสบ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมไม่รู้เลยเพราะไม่มีอาการใดๆ จนระยะนี้ผมเริ่มคลำได้มีก้อนแข็งๆเป็นไตๆที่ตรงใกล้รูทวาร แล้วเวลาถ่ายจะเจ็บ (ในตอนแรกคิดว่าเป็นริดสีดวงซะอีก) จากนั้นเมื่ออักเสบมากๆก้อนแข็งนั้นจะแตกออกมา แล้วหนองจะถูกระบายออก จากที่เมื่อกี๊ในข้อ 1 มันมีท่อที่ตรงลำไส้ใช่ไหม ตอนนี้มันมีท่อทะลุมาที่ผิวหนังแล้ว นั่นหมายความว่าเรามีท่อทางด่วนพิเศษจากลำไส้ตรงมาออกที่ผิวหนัง โดยไม่ต้องผ่านหูรูด ดังนั้นสิ่งสกปรกก็สามารถวิ่งผ่านท่อทางด่วนพิเศษนี้ออกมาที่ผิวหนังได้โดยตรง แต่มันจะออกมาในลักษณะหนองเสียมากกว่าเพราะร่างกายพยายามกำจัดเชื้อโรค
ภาพแสดงการเริ่มเกิดท่อหนอง

ภาพแสดงเมื่อท่อเซาะจนถึงผิวหนังด้านนอก

ส่วนข้อมูลรายละเอียดมากกว่านี้ผมไม่ขออธิบาย จะมีการแบ่งประเภทของฝีฯ การเจาะฝีฯ ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่เราต้องไปรู้ เป็นหน้าที่ของแพทย์ที่ต้องวินิจฉัยว่าเราเป็นประเภทไหน ต้องเจาะหรือผ่าตัด หรือไม่ต้องทำอะไรเลยขึ้นอยู่กับแต่ละคน

ตอนเริ่มสงสัยว่าเป็น
วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังถ่ายรู้สึกเหมือนเจ็บๆ และคลำเจอก้อนแข็งๆข้างๆหูรูดในแนวของร่องก้นฝั่งด้านหลัง ตอนแรกคิดว่าเป็นริดสีดวงแต่ก็สงสัยว่าถ้าเป็นริดสีดวงมันต้องมีเส้นเลือดปูดออกมาจากลำไส้แต่นิมันเป็นที่ขอบทวาร เลยลองค้นคว้าอ่านในอินเตอร์เน็ทซึ่งที่เป็นภาษาไทยแบบละเอียดๆมีน้อยมาก คนที่มาเล่าประสบการณ์ก็ไม่ค่อยมี เลยไปอ่านเว็บต่างประเทศจนสรุปได้ว่าผมมีโอกาสเป็นฝีคัณฑสูตร เนื่องจากเคยผ่าตัดหูรูดมาก่อนจึงมีโอกาสต่อมเมือกอุดตันง่าย แต่สิ่งที่ยากคือ ต้องหาหมอที่เก่งพอที่จะแยกแยะว่าอันไหนที่เกิดจากฝีธรรมดา หรือฝีคัณฑสูตร หรือโรคอื่น

หารายชื่อหมอเก่งๆ..
ในที่สุดก็พบว่าหมอที่เก่งๆในประเทศไทยมีหลายท่าน แต่มีท่านหนึ่งชื่อ ศ.นพ.อรุณ โรจนสกุล ท่านมีความเชี่ยวชาญมาก ทำวิจัยเรื่องฝีคัณฑสูตรมาหลายสิบปีมีผลงานวิจัยหลายฉบับ มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังเป็นผู้คิดค้นวิธีการผ่าตัดด้วยเทคนิค LIFT กล่าวง่ายๆคือการผ่าตัดโดยไม่ทำให้หูรูดเสีย และยังควบคุมการขับถ่ายได้ (ในสมัยก่อนทั้งในแต่ต่างประเทศจะต้องผ่าตัดกล้ามเนื้อหูดออกเมื่อเอาท่อหนองออก อาจารย์ท่านนี้เป็นคนคิดค้นวิธีการรักษานี้จนแพร่หลายในต่างประเทศ) แต่ท่านปลดเกษียณไปแล้วตั้งแต่ปี 54 นอกจากนี้ก็ยังมีแพทย์อีกหลายท่านเก่งๆ เช่น รศ.นพ.ชูชีพ สหกิจรุ่งเรือง ท่านเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์อรุณ คือ เท่าที่ทราบในวงการ Colorectal Surgery อ.อรุณ เปรียบเสมือนแบรนด์เนม หรือเกจิอาจารย์ดัง ที่ใครเป็นลูกศิษย์ถือว่าเป็นเก่งมาก

หาที่รักษา..
ต่อมาก็ตามหาว่า แพทย์เก่งๆเหล่านั้นอยู่ รพ.ไหน รวมไปถึงต้องหาโรงพยาบาลใกล้บ้าน, ใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก ตอนนั้นมีอยู่ใน list คือ
  • โรงพยาบาลจุฬา - เหตุผลเพราะเป็นโรงพยาบาลรัฐจึงราคาถูก มีทั้ง อ.อรุณ และอ.ชูชีพ รักษาที่นี่ อีกทั้งอยู่ใกล้ MRT สีลม, BTS ศาลาแดง และยังใกล้ที่ทำงาน แต่ปัญหาคือต้องรอคิวนานมาก จะพบหมอทีต้องไปรอตั้งแต่เช้ามืดและกว่าจะเสร็จก็ต้องลางานเป็นวันๆ อีกทั้งส่วนใหญ่มักเป็นนักศึกษาแพทย์เป็นผู้รักษาผ่าตัด เพราะถ้าเคสไม่ใหญ่มากก็ไม่ถึงมืออาจารย์แพทย์
  • โรงพยาบาลเปาโล - เหตุผลเพราะผมใช้บัตรประกันสังคมได้ เลือก รพ.เปาโลไว้ ทำให้ช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ ใกล้ BTS สะพานควาย แต่ปัญหาคือไม่มีหมอเฉพาะทางด้านลำไส้ใหญ่แล้วทวาร อีกทั้งมีข่าวแง่ลบของการรักษาแบบใช้บัตรประกันสังคมของ รพ. นี้เยอะมาก
  • โรงยาบาลกรุงเทพคริสเตียน - เหตุผลเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชนคุณภาพใช้ได้ แม้พยาบาลจะดุๆไปหน่อยแต่ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องการรักษานิ! อยากรักษากับหมอชูชีพในราคาถูกหน่อยในรพ.เอกชนต้องที่นี้เลย
  • โรงพยาบาล BNH - เหตุผลเพราะอ.ชูชีพ รักษาที่นี่ด้วย แต่ติดว่าราคาแพงไปหน่อย เดินทางลำบาก
  • โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท - เหตุผลเพราะมีแพทย์เก่งๆ เช่น อ.ชิงเยี่ยม และ อ.พรเทพ เก่งทางด้านลำไส้ใหญ่และทวารหนักทั้งคู่ แต่เดินทางลำบากไปหน่อยเช่นกัน 
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ - เหตุผลเพราะมีท่านเกจิ อาจารย์อรุณ แต่ติดว่าราคาคงแพงมาก เพราะเป็นโรงพยาบาลหรูอันดับต้นๆของประเทศไทยเลย
เริ่มตัดตัวเลือก รพ. และนัดผ่าตัด
พอได้ List ของ รพ. ทั้งหมดก็มาตัดตัวเลือกออกไป และที่อยู่ในใจมาเป็นอันดับ 1 ตอนนั้นคือ รพ.กรุงเทพคริสเตียน แต่ก็อยากมีตัวเลือกสัก 3 รพ.ไว้  ในที่สุดก็เหลือ รพ.เปาโล, รพ.กรุงเทพคริสฯ, รพ.บำรุงราษฎร์

ดังนั้นเงื่อนไขสุดท้ายคือเรื่องราคา ถ้าราคาไม่ต่างกันมากคงจะเลือกรักษากับปรมาจารย์ คือ อ.อรุณ จึงได้ไปทั้ง 3 รพ.ประเมินราคา โดยการไปเป็นผู้ป่วยนอกให้หมอตรวจและขอนัดผ่าตัดเพื่อแอดมิดเป็นผู้ป่วยในเลย จะได้รู้ราคาแต่ละที่ ซึ่งเมื่อมาเปรียบเทียบราคารวมค่าห้องด้วย พบว่า
  • รพ. เปาโล ประมาณ 6 หมื่น
  • รพ. กรุงเทพคริสฯ ประมาณ 7 หมื่น
  • รพ. บำรุงราษฎร์ บอกมาเป็นช่วง 6-9 หมื่น (แต่สอบถามหมอตอนในห้องตรวจหมอบอกว่า 6 หมื่น)
ดังนั้นในเมื่อราคาไม่แตกต่างกันมาก เลยเลือก รพ.บำรุงราษฎร์ แล้วก็โทรไปยกเลิก รพ.อื่นๆ ซึ่งบาง รพ.จะมีการสอบถามว่าเหตุใดจึงยกเลิก ผมเลยใช้เหตุผลว่าอาการดีขึ้น (เพราะตอนนั้นอาการดีขึ้นจริงๆไม่เจ็บเวลานั่งแล้ว) ไม่อยากใช้เหตุผลเรื่องราคาเดี๋ยวจะเกิดการต่อรองไปมาไม่สิ้นสุด (แต่ในใจอยากจะบอกมากเลยว่า รพ.เก่ามาก ห้องตรวจก็เก่าพื้นสกปรกมาก พยาบาลก็ดุจังไม่มียิ้มเลย ทำไมราคาแพงอย่างนี้.. เฮ้อ..แต่เอาเถอะรักษาน้ำใจกันไว้ดีกว่า)

ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้ว รพ.เอกชน ค่าผ่าตัดไม่ได้แตกต่างกันมากมายนัก

ก่อนวันผ่าตัด 1 วัน
เกิดอาการตื่นเต้น จริงๆตื่นเต้นมาหลายวันแล้ว แต่วันก่อนผ่าตัด 1 มันกังวลและกลัวไปหมด เพราะผ่าคราวที่แล้วเจ็บตัวไปเป็นเดือนกว่าแผลจะหาย แต่ก็พยายามทำใจสบายๆ แล้วก็พยายามคิดว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง เลยเอาเช็คลิสต์มาให้ดูว่าควรเตรียมอะไรใส่กระเป๋าบ้าง
  • เอกสารส่งตัวผ่าตัด
  • เสื้อผ้าและกางเกงในสะอาดๆสำหรับใส่กลับ 1 ชุด
  • หมอนโดนัท (อันนี้หาซื้อไม่ได้เลย เลยไม่ได้เตรียม)
  • แปรงสีฟันส่วนตัว ถ้าไม่อยากใช้ของ รพ.
  • ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้า
  • ที่ชาร์ทมือถือ หูฟัง และอุปกรณ์ไอที เผื่อใช้งานระหว่างอยู่ที่ รพ.
  • รองเท้าที่สวมสบายๆ นิ่มๆ
  • หนังสืออ่านเล่นแก้เหงา (ผมเอาหนังสือ .NET 4.5 ไปอ่าน แต่บางคนชอบหนังสือธรรมะก็ตามแต่ชอบใจ)
  • ที่โกนหนวดไฟฟ้า
  • ยาดม
  • ยาประจำตัว
  • ฯลฯ
ส่วนการเตรียมร่างกายตอนเย็นของวันก่อนผ่าตัด 
  • ตอนแรกเข้าใจว่าต้องโกนขนบริเวณรอบๆจุดผ่าตัด แต่โทรไปถามพยาบาลบอกว่าไม่ต้อง ถ้าจะโกนเดี๋ยวคุณหมอจะสั่ง skin prepare ตอนผ่าตัดเลย อีกอย่างถ้าโกนไปโดยคุณหมอไม่ได้สั่ง เวลาขนขึ้นมาใหม่อาจจะแข็งและแทงแผลผ่าตัดทำให้เจ็บและรำคาญได้
  • พยายามถ่ายให้หมด และงดอาหารและน้ำ โดยปรกติแพทย์จะสั่งให้งดก่อนผ่าตัดประมาณ 6 ช.ม. แต่ผมงดอาหารก่อนประมาณ 15 - 16 ช.ม. จะได้เหลือกากอาหารในลำไส้น้อยที่สุด แล้วงดดื่มน้ำประมาณ 10 ช.ม.
  • ตัดเล็บ, โกนหนวดให้เรียบร้อย เพราะคงอีกหลายวันกว่าจะได้ตัดอีก
  • พยายามนอนให้หลับเยอะๆ เพื่อให้ร่างกายพร้อมกับการผ่าตัด
  • ถ้าใครมี สร้อย แหวน ฟันเหล็ก คอนแทค ถอดออกเตรียมไว้เลย เพราะไม่ให้ใส่เข้าห้องผ่าตัด
แอดมิทเป็นผู้ป่วยใน นอนรอผ่าตัด
สำหรับผมหมอนัดผ่าตัด 10 โมง ก็ควรไปถึง รพ.ก่อน 3 ช.ม. ก็เลยตื่นตั้งแต่ตี 5 อาบน้ำสระผมขัดถูทุกซอกทุกมุมเพราะคงไม่ได้อาบอีกหลายวัน จากนั้นก็ขับรถไป รพ. ไปถึงตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง ปรากฎว่าเคาร์เตอร์รับแอดมิดผู้ป่วยในเปิด 7 โมง เลยต้องนั่งรอก่อน แต่ก็ดีไปอย่างเพราะจะได้ลดความตื่นเต้น ห้องรับผู้ป่วยในของ รพ.บำรุงราษฎร์จะอยู่ชั้น 2 (ถัดจากชั้นแมคโนนัล) ระหว่างรอก็นั่งกินน้ำผลไม้ที่เขาเตรียมไว้ให้เพลินเลย
ห้องรับผู้ป่วยใน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะรับขวัญด้วยห่วงข้อมือ บนนั้นจะมีข้อมูลของผู้ป่วย จากนั้นพนักงานจะแจ้งห้องพัก ซึ่งผมเลือกห้องพักแบบห้องเดี่ยวธรรมดา (คือห้องเดี่ยวประเภทราคาถูกสุด ราคา 6 พันกว่าต่อคืน โอ้วเห็นราคาแล้วจะเป็นลม เท่ากับเงินเดือนของข้าพเจ้าสมัยทำงานในมหาวิทยาลัย) 
ภาพสายรัดข้อมือ ที่มีข้อมูลผู้ที่จะผ่าตัด

อันนี้ถูกใจมาก คือมี Account Wi-Fi ให้ใช้งานฟรี 5 วัน ความเร็วก็พอใช้ได้


รีวิวห้องพักผู้ป่วย (แบบห้องเตียงเดี่ยวธรรมดา เลือกแบบราคาต่ำที่สุด)
เมื่อถึงห้องจะมีพยาบาลมาแนะนำการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในห้อง
ภาพบริเวณเตียงผู้ป่วย

บริเวณแคนทีน มีไมโครเวฟ และตู้เย็นพร้อม มีกระติกน้ำร้อนพร้อมไมโลกับกาแฟมาเติมให้เรื่อยๆ
ส่วนดอกไม้และหนังสือพิมพ์จะเอาเปลี่ยนให้ทุกเช้าครับ

วิวเมื่อมองออกไป มีแต่ตึก ตึก ตึก.. ย่านสุขุมวิท ม่ายสดชื่นเอาเสียเลย

ตรงนี้ชอบ เพราะมีปุ่มควบคุมได้หมด ทั้งแอร์ ไฟทุกดวง สามารถกด เปิด-ปิด ม่านไฟฟ้าได้จากตรงนี้

ตรงหัวเตียงก็มีปลั๊กแบบยูนิเวลแซล พร้อม USB มีทั้งฝั่งซ้ายและขวา ของหัวเตียง

ขึ้นมาจากปลั๊ก ก็เป็นพวกของพยาบาลเขา เช่นออกซิเจน, สายกดเรียก ฯลฯ

ปุ่มกดข้างๆเตียง

ข้างๆเตียงด้านในมีปุ่มควบคุมเยอะไปหมด แต่ที่ผมใช้จริงๆก็แค่ ยกเตียงขึ้นลง, ยกหัวนอนขึ้นเวลากินข้าว

ในห้องน้ามีอุปกรณ์ครบ ไดร์เป่าผมอยู่ในห้องนี้ด้วย มีที่จับยึดช่วยเวลาลุกนั่งชักโครก 
ดูไปแล้วคล้ายๆโรงแรมผสมโรงพยาบาล

รายการอาหารให้เลือกมากมาย

ในแต่ละวัน จะมีรายการอาหารมาให้เลือก เช้า กลางวัน เย็น เราก็วงๆไป วันนั้นอยากกินซีซ่าร์สลัด กับสเต็กหมูซอสเกรวี่ 

เดี๋ยวจะน้อยใจว่าไม่มีส่วนของคนเยี่ยม เลยถ่ายรูปมาให้ดูสักรูป สำหรับส่วนของคนเยี่ยม มีโซฟาให้ชุดหนึ่ง ซึ่งนอนได้ ตรงหัวนอนมีไฟอ่านหนังสือ, หูฟัง จะได้ไม่รบกวนผู้ป่วย และควบคุมม่านไฟฟ้ากับสวิซต์ไฟแสงสว่างได้เช่นเดียวกับผู้ป่วย

ถึงเวลาผ่าตัด
เมื่อนอนกลิ้งไปกลิ้งมา พยายามไม่ให้ตื่นเต้น ในที่สุดก็ถึงเวลาผ่าตัด คุณพยาบาลจะให้นอนอีกเตียงหนึ่งซึ่งเป็นเตียงไฮโดลิค แล้วเข็นไปห้องผ่าตัด ซึ่งอยู่ชั้น 5 

จากนั้นก็ถูกนำตัวไปเข้าห้องเตรียมก่อนผ่าตัด ปรากฎว่าความดันขึ้นสูงมาก 160/90 เพราะตื่นเต้นจัด เลยต้องนอนรอสักพักให้หายตื่นเต้น แล้วก็ใส่น้ำเกลือ

ระหว่างรอจะมีวิสัญญีแพทย์จะเข้ามาคุย ว่าเราต้องการบล็อคหลัง หรือ ดมยาสลบ ผมเลือกแบบผสมผสานเองคือ บล็อคหลังชาครึ่งตัวล่าง + ให้ยานอนหลับ เพราะไม่ชอบให้เอาสายยางมาใส่ปากเวลาดมยาสลบ แต่อยากได้อารมณ์ว่าสลบอยู่ไม่อยากรับรู้ ซึ่งคุณหมอวิสัญญี ก็ใจดีบอกว่าเดี๋ยวจัดให้ คุณหมอวิสัญญีใจดีมาก เล่าประสบการณ์ให้ฟังว่าหมอเองก็เป็น เคยผ่ามาแล้ว 2 ครั้ง

เมื่อหายตื่นเต้น ความดันลงมาปรกติก็เข็นไปยังห้องผ่าตัด ห้องผ่าตัด รพ.นี้ทันสมัยมาก ทันสมัยกว่าที่ รพ.กรุงเทพคริสฯ เยอะเลย อุปกรณ์ต่างๆใหม่เอี่ยม เครื่องวัดสัญญาณชีพเป็นแบบดิจิตอลหมด จากนั้นพยาบาลก็ให้นอนตะแคงทำตัวโค้งๆเป็นกุ้งแล้วก็ฉีดยาบล๊อกหลัง จากนั้นก็ฉีดยานอนหลับ

เมื่อวิสัญญีทำให้เราไม่รู้สึกตัวแล้วหมอก็เริ่มผ่าตัด ตอนนี้ผมก็หลับสบายไปครับ ตอนนอนระหว่างผ่าตัดฝันว่าได้กินอาหารที่ไหนไม่รู้น่ากินมาก สงสัยเพราะความหิว ฮาๆ

หลังจากผ่านไปประมาณ 1 ช.ม. หมอผ่าตัดเสร็จ ก็ตื่นพอดี ไม่รู้ว่าตื่นเพราะยานอนหลับหมดฤทธิ์พอดี หรือว่าตื่นเพราะมียาช่วยให้ตื่น

พยาบาลก็พาไปห้องพักรอฟื้น ตอนนั้นหนาวมาก จนต้องเอาที่เป่าลมร้อนมาเป่าในผ้าห่ม ช่วยให้สบายตัวขึ้นเยอะ พอพักให้ห้องนั้นสัก 2 ช.ม.ได้ หลับๆตื่นๆ และเหมือนกับมีแค่ครึ่งตัวบน ส่วนครึ่งตัวล่างไม่รู้สึกตัวเลย พอสักพักก็ถูกเข็นขึ้นมาบนห้องพักผู้ป่วย

ขั้นตอนการผ่าตัด
แพทย์จะหาท่อเชื่อมระหว่างผิวหนังกับลำไส้ บางท่านจะใช้เส้นพลาสติกเล็กๆแยงเข้าไปที่รูหนองออก แล้วแยงจนกว่าทะลุมาที่ลำไส้ ก็จะรู้ว่าเส้นทางของท่อไปทางไหน แพทย์บางท่านก็ใช้ความชำนาญคลำหาในลำไส้ได้

จากนั้นแพทย์บางท่านก็จะผูกด้วยไหม แล้วทำการผ่าตัดเลาะท่อนี้ออก ซึ่งแพทย์ที่ชำนาญจะคลำหาท่อได้เร็ว และสามารถผ่าเอาท่อหนองออกได้หมด โอกาสกลับมาเป็นอีกก็น้อยลง และเสียเนื้อดีน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งการผ่านี้แล้วแต่เทคนิคของหมอแต่ละท่าน และหน้างานว่าลักษณะท่อเป็นอย่างไร แต่ละคนไม่เหมือนกันครับ บางคนอาจจะผ่าลึกเข้าไป บางคนผ่ายาวออกมาถึงแก้มก้น แต่ไม่ต้องกังวลเพราะแพทย์จะดูแลเลาะท่อให้หมดอยู่แล้ว


หลังผ่าตัด 2 ช.ม.
พอขึ้นมาห้อง หิวมากครับ พอดีมีอาหารมาพอดี เลยซัดจนอิ่ม พยาบาลถามว่าเวียนหัวไหม พะอืดพะอมไหม คันตามผิวหนังไหม ผมบอกว่าไม่มีเลยหิวอย่างเดียว

พยาบาลจะมาเช็คความดัน และมาสอบถามเป็นระยะๆ ดูเอาใจใส่ดีมาก แล้วก็เอาโถปัสสาวะมาให้ ผมก็พยายามเบ่ง แต่ไม่รู้สึกช่วงล่างเลยเบ่งไม่ออก จึงเอาโถปัสสาวะวางไว้ระหว่างขาไว้เลยเผื่อปวด
ปรากฎว่าจริงๆแล้วฉี่ออกมาแบบไม่รู้ตัวตั้งนานแล้ว เปียกที่นอนหมดเลย ต้องให้พยาบาลเอาที่นอนมาเปลี่ยนใหม่ พอกดเรียกพยาบาลมาเร็วมาก ไม่เกิน 1 นาทีถึงห้องแล้ว แถมหาแผ่นรองกันเลอะมาให้อีก บริการดีมากๆ

หลังผ่าตัด 6 ช.ม. ความปวดเริ่มมา
หลังจากพยายามดื่มน้ำเยอะๆปัสสาวะเยอะๆ เพื่อขับฤทธิ์ยาออกจากร่ายกายได้หลาย ml. แล้ว ก็เริ่มมีอาการปวด หน่วงๆที่ทวาร พอยกก้นดู โอ้ว..เลือดเต็มที่นอนเลย ต้องเปลี่ยนแผ่นรองใหม่ อีกที 

พอปวดมากๆ ก็กดเรียกพยาบาล ขอยาแก้ปวด ซึ่งพยาบาลจะให้ยาตั้งแต่ระดับอ่อน เช่น พาราฯ แล้วถ้าเรายังปวดอยู่ก็จะให้ยาแรงขึ้นไปเรื่อยๆ จนฉีดมอร์ฟีน ของผมถึงขั้นฉีดมอร์ฟีนเลยครับ

พอสักพักน้ำเกลือหมด ก็กดเรียกพยาบาลอีก (กดเรียกบ่อยมากจนเกรงใจเลย) พยาบาลก็มาดูๆแล้วเห็นว่าผมดื่มน้ำได้ ทานอาหารได้ปรกติ และปัสสาวะได้เองแล้ว ก็เลยเอาน้ำเกลือออก แต่ยังค้างเข็มน้ำเกลือที่มือไว้อยู่ เผื่อเอาไว้ฉีดยา

ค่ำคืนแรกของการผ่าตัด
แม้จะเป็นผ่าตัดไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็เจ็บแผลมากจนนอนไม่หลับ แต่ระหว่างกลางคืนไม่ได้ขอยามอร์ฟีน เพราะอยากพยายามหลับเอง และพยายามจิบน้ำตลอด เพื่อจะได้ปัสสาวะไล่ของเสียออกจากร่างกาย
ส่วนเรื่องความเจ็บปวดคงเป็นของคู่กับการผ่าตัดขอไม่อธิบายแล้วกันครับ

การดูแลหลังวันผ่าตัด
เมื่อ อ.อรุณ มาตรวจแล้ว ก็บอกว่า การดูแลคือ ล้างด้วยน้ำประปาเท่านั้น ไม่ต้องแช่ก้นด้วยด่างทับทิม หรือยาอื่น อ.อรุณให้เหตุผลว่า การใช้ยาจะไปทำลายเชื้อโรคดี ทำให้แผลอาจจะหายช้า ซึ่งจากประสบการณ์ของ อ. ท่านบอกว่า การแช่หรือไม่แช่ การหายเท่ากัน บางทีการแช่จะหายช้ากว่าด้วย เพราะไปขัดขวางกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อ

ซึ่งผมก็ยังไม่ค่อยเชื่อในตอนแรก จึงมาอ่านงานวิจัยของต่างประเทศหลายฉบับ พบว่าเป็นจริงอย่างที่อ.ท่านบอกจริงๆ คือ ในงานวิจัยของต่างประเทศเขาทดสอบการปล่อยให้แผลหายเอง กับแช่น้ำใส่ยา พบว่าการแช่น้ำใส่ยาทำให้หายช้าและเจ็บปวดกว่า โดยสรุปๆข้อดีของการปล่อยให้เป็นน้ำหนองน้ำเหลือหายเองที่อ่านมาดังนี้ครับ
  • ทำให้อาการเจ็บน้อยลงเพราะปลายประสาทแช่อยู่ในน้ำเหลือง
  • เซลล์ที่จะมาสร้างเนื้อเยื่อ สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วในแผลแบบเปียก แล้วในน้ำเหลืองมีอาหารสำหรับเซลล์เกิดใหม่ ทำให้เนื้อเยื่อประสานกันเร็วขึ้น
  • น้ำเหลืองที่ร่างกายผลิตใหม่จะขับน้ำเหลืองเก่าออกไป ทำให้ป้องกันเชื้อโรคเข้ามาตรงบริเวณเนื้อเยื้อที่อักเสบได้
  • การรักษาแบบแผลเปียกนี้ใช้ได้เฉพาะแผลสด แผลผ่าตัด และเป็นบาดแผลที่ไม่ติดเชื้อเท่านั้น
จะถ่ายอย่างไร?
อันนี้เป็นข้อสงสัยตั้งแต่ก่อนผ่าตัดแล้วว่า จะถ่ายอย่างไร ในเมื่อเราไปผ่านตัดตรงรูทวารตรงหูรูดพอดี อ.อรุณบอกว่า ถ่ายได้เลย เอาแล้วให้สะอาดเช็ดให้แห้ง พยายามอย่างให้ท้องผูก

พอกลับมาบ้านถ่ายวันแรก โอ้วเจ็บมาก เลือดสดๆไหลเป็นน้ำเลย พอเสร็จธุระก็ล้างด้วยน้ำประปาตามที่ อ.อรุณบอก แต่มันแสบไปหมด จากนั้นก็ใช้ทิชชู่เช็ดให้แห้ง แถมด้วยไปเป่าลมอีกที ปรากฎว่าหลังจากนั้นสักพัก เอ๊ะ..อาการเจ็บแบบหน่วงๆหายไป เหลือแต่เจ็บแผลผ่าตัดเจ็บแบบแหลมๆ เลยจะบอกว่าคนที่ผ่าตัดทวารไม่ต้องกลัวครับ ร่างกายเราสามารถปรับตัวได้ไม่ต้องห่วง

...
ณ ตอนนี้แผลยังไม่หาย หมอให้ลาพักผ่อน 1 สัปดาห์ แล้วน่าจะดีขึ้นครับ

ถ้ามีโอกาสจะมาเขียนเล่าต่อว่าหลังจากนี้แล้วแผลเป็นอย่างไรครับ

228 ความคิดเห็น:

  1. ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างแล้วคะ??? หายเป็นปกติรึยัง..พอดีน้องสาวจะไปผ่ากับอ.อรุณ เลยอยากทราบว่าดีมั้ย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขออภัยนะครับไม่ได้เข้ามาตอบเลย ตอนนี้หายปรกติแล้วครับ ผมเขียนบทความไว้อีกบทความนะครับลองไปอ่านดู

      ลบ
  2. ของผมผ่าไปสองครั้งแล้วภายใน6เดือนรอผ่าครั้งทีสามอีกมันไม่หายจิงชินเสียแล้วกับการผ่าแต่ครั้งทีสองไม่ค่อยเจ็บ

    ตอบลบ
  3. ผ่ากับหมออรุณทั้งสองครั้งเลยหรอคะ แล้วที่ไปผ่ารอบสองรอบสามที่เดิมหรือที่ใหม่คะ

    ตอบลบ
  4. อยากคุยกับคุณหมีพูแต่ไม่เห็นเข้ามาตอบเลยครับ พอดีกำลังจะไปผ่าเหมือนกันเลยอยากสอบถามเพิ่มเติม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขออภัยมากๆครับ หวังว่าตอนนี้คงผ่าแล้วใช้ไหมครับ

      ลบ
  5. ผมไปผ่ามาแล้วครับ มีประสบการณ์เพิ่มเติมสำหรับคนที่เป็นโรคนี้อยู่ น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย แต่เนื่องจากมีความยาวเป็นพิเศษ ให้กดโหลดมาอ่านกันนะครับ ผมทำเป็นไฟล์ word โหลดที่นี่ครับ

    https://drive.google.com/file/d/0B_NksnuiQlWkZkNGOFJQVk1NdlU/edit?usp=sharing

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พึ่งได้โหลดไฟล์มาอ่านคะ ผ่าเหมือนเราเป้ะเลย ฉีดแค่ยาชาเหมือนกัน ผ่าเวลาเดียวกันด้วยคะ หกโมงเย็น 555 ของเรา 42,000 ของคุณ 43,000 (แต่หลังผ่าเราไม่ได้ยาอะไรเลยกินแต่ข้าวคะ) อิอิ

      ลบ
  6. โหลดไฟล์ไม่ได้นะครับ Access denied ของผมผ่าที่จุฬา5รอบแล้ว ล่าสุดเมื่อ พย56 ตอนนี้อาการกลับมาอีกแล้วคาดว่าคงต้องผ่าใหม่อีก เหนื่อยจริงๆ

    ตอบลบ
  7. ลองโหลดดูใหม่นะครับ ผ่าที่ รพ จุฬากับคุณหมออรุณหรือเปล่าครับ เป็นมานานยังครับ

    ตอบลบ
  8. ลิงค์ใหม่นะครับ
    www.thefamily-studio.com/obox/fistula.doc

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขออนุญาตนำมาใส่ลิงก์รวบรวมไว้ในบทความนะครับ

      ลบ
  9. ภาคต่อจากบทความที่ผมให้โหลดอ่านกันนะครับ

    ตอนออกจาก รพ หมอให้ลาพัก 1 สัปดาห์ แต่ระบุแผลจะหายใน 1 เดือน และมีนัดมาดูแผลในสัปดาห์ที่สอง

    สัปดาห์แรก ยังมีเลือดซึมๆ กับน้ำเหลือง เล็กน้อยน่าจะเป็นเรื่องปกติ ขับถ่ายได้ปกติแทบไม่เจ็บเลย แต่เดิน นั่ง นอน นานๆ จะรู้สึกเจ็บเหมือนกันต้องค่อยๆ บางครั้งจะมีความรู้สึกปวดแผลเป็นบางช่วงแต่ยืนยันว่าเจ็บน้อยกว่าตอนเป็นฝีเยอะ (ผมว่าแล้วแต่ตำแหน่งแผลของแต่ละคนด้วยแหล่ะ)

    ตอบลบ
  10. ปลายสัปดาห์แรกเริ่มเบื่อ อาการดีขึ้นนิดนึงออกไปขับรถทำบัตรประชาชนทำใบขับขี่ เดินเยอะไปหน่อย กลับมาเจ็บกว่าเดิมนิดนึง ระหว่างนี้ ขับถ่ายเป็นระบบดีขึ้น ล้างก้นด้วยน้ำประปาธรรมดาไม่มีแช่น้ำอุ่นตามที่หมอบอกว่าแช่หรือไม่ก็ได้

    เข้าสัปดาห์สอง เลือดกับน้ำเหลืองยังมีซึมๆ แต่น้อยลง เดิน นั่ง อิริยาบทเดิมนานๆ ไม่ได้มากจะรู้สึกขัดๆ เจ็บนิดๆ เดินเร็วมากไม่ได้ การนั่งต้องค่อยๆ แต่ยืนยันอีกทีว่าน้อยกว่าตอนเป็นฝีเยอะ และเริ่มมีอาการคันปนๆ มาบ้าง แต่รู้สึกว่าหายช้าจังเลยเปลี่ยนใจลองแช่น้ำอุ่น รู้สึกสบายขึ้นครับ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่เหมือนจะดีขึ้น พอเข้าวันที่ 3-4 ของสัปดาห์ที่ 2 ก็รู้สึกเดินนั่งคล่องตัวกว่าเดิม แต่ความรู้สึกว่าเป็นแผลก็ยังมีอยู่ แต่มีอาการฉี่ อึ เล็ดนิดหน่อยไม่มาก แต่ใส่ผ้าอนามัยแทบตลอด จนกระทั่งวันนี้ 18 มค ที่หมอนัดดูแผล

    ตอบลบ
  11. ขับรถไปที่จอดรถสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดา ลาดพร้าว ขึ้นรถไฟใต้ดินมาอโศก ต่อ bts ไปลงเพลินจิต ต่อมอไซค์ไปบำรุงราษฎร์ (ช่วงมีม็อบไม่อยากเอารถไป) ถือว่าเดินเยอะอุตส่าห์มั่นใจมากว่าเลือดไม่น่ามีแล้ว พอเจอหมอขอดูแผล หมอเอาผ้าก็อชซับเลือดกับน้ำเหลืองที่ออกมานิดหน่อย แล้วคาผ้าก็อชไว้อย่างนั้นก่อน หมอบอกแต่ถ้ามันหลุดก็ช่างมัน ผมคาไว้จนค่ำค่อยเอาออก สรุปว่ายังมีน้ำเหลืองกับเลือดเป็นวงประมาณ 1 นิ้ว ความรู้สึกเหมือน กางเกงในเข้าวินทั้งวัน 555 หมอนัดอีกทีเดือนหน้าเลย ไม่ให้ยาอะไร ค่าหาหมอวันนี้เบาๆ 600 กว่าบาท พยายามถามหมอเรื่องอาหารการกิน หมอนิ่งมากบอกว่าปกติทำให้ไม่กล้าถามมาก ถามเรื่องแผลว่าแผลอยู่ด้านในหรือนอก สรุปว่ามีทั้งในและนอก แต่ด้านในจะเยอะหน่อยซึ่งน่าแปลกเพราะเจ็บน้อยมาก ถามเรื่องฉี่อึเล็ด หมอบอกไม่มีอะไรเดี๋ยวก็หาย ผมรู้สึกว่าคุณหมออาจจะเจอคนไข้มามากจนสรุปได้ว่าไม่มีอะไรมาก ทำชีวิตตามปกติเดี๋ยวก็หาย และจะไม่แนะนำอะไรเรามากมาย แต่ผมว่าตัวเราเองก็ต้องเซฟตัวเอง อย่ากระโดดโลดเต้นมาก กินอาหารที่ทำให้ขับถ่ายดี ดูแลเรื่องความสะอาดน่าจะเพียงพอ ออ งดเหล้าบุหรี่ก็ดีครับโชคดีผมไม่สูบไม่ดื่มอยู่แล้ว แล้วเดือนหน้าจะมารายงานต่อครับ

    ตอบลบ
  12. ของผมเข้าให้ยาแก้ปวด(ผสมเข้าสายเดียวกับน้ำเกลือ) ฉีดเข้าเส้นตลอดไม่ถึงกับมอฟีน แต่คงน้อง ๆ มอฟีนเลยไม่มีอาการเจ็บเท่าไร ถอดยาแก้ปวด หลังน้ำเกลืออีก ยาแก้ปวดใส่เกือบสองวัน

    ตอบลบ
  13. ณ วันนี้ ผ่าได้อาทิตย์นึงแล้ว มีแต่น้ำเหลือง แล้วก็แช่น้ำอุ่นเช้าเย็น คุณเจ้าของกระทูรู้สึกเหมือนผมรึป่าว ว่าตอนนอน มันไหลเยอะ(น้ำเหลือง)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ครับ ไหลเยอะมากครับ แต่ของผมไม่ได้แช่น้ำอุ่นนะครับ เพราะน้ำจะไปขัดขวางขบวนการหายของแผลครับ

      เราต้องพยายามซับน้ำหนองออกให้แห้งเสมอ วันแรกๆผมซับทุกๆ 30 นาที ซับจนเบื่อ พอสักสัปดาห์ ก็ซับทุกๆ 2 ช.ม. เพราะแผลเริ่มปิด เนื้อเริ่มงอกออกมาหนองก็น้อยลงไปด้วยครับ

      ลบ
  14. ทำไมนอน 2 คืนเลยเหรอครับ แล้วก็ของผมคุณหมอไม่ได้บอกเลยว่าให้แช่น้ำอุ่น (แต่เท่าที่อ่านจากคนอื่นที่ไปผ่ามาคุณหมอทุกคนก็แนะนำให้แช่น้ำอุ่น รวมไปถึงคนรู้จักผมที่เป็นพยาบาลก็แนะนำเรื่องแช่น้ำอุ่นครับ) แต่คุณหมออรุณ ท่านนิ่งมาก ไม่ค่อยแนะนำอะไรเพิ่มเติม มีแต่บอกว่าให้ทำทุกอย่างตามปกติ ถามว่าทานอะไรได้บ้าง ก็บอกว่าปกติ ไม่ได้แนะนำว่าเลี่ยงเดินมาก นั่งนาน หรืออะไรเลยครับ 55

    ตอบลบ
  15. เห็นบอกว่า อ.อรุณ ท่านปลดเกษียณไปแล้วตั้งแต่ปี 54 ทำไมถึงได้ผ่าอะคะ อยากไปผ่ากับท่านด้วยคะ สอบถามหน่อยคะ ถ้าอยากผ่ากับหมออรุณเหมือนกันต้องทำยังไงคะ โทรจองที่บำรุงราษฏ์หรอคะ ต้องรอคิวนานมั้ยคะ พอดีไม่เคยมีประสบการณ์อะคะ

    ตอบลบ
  16. ไปพบคุณหมอที่บำรุงราษฎร์ได้เลยครับ (หรือจะไปที่โรงพยาบาลจุฬาก็ได้ครับ แต่อาจจะต้องเข้าคิวนานสักหน่อย รวมถึงคิวในการผ่าตัดก็อาจจะหลายสัปดาห์หรืออาจเป็นเดือนครับ) ท่านยังทำงานอยู่ครับ วันที่คุณหมอเข้าเวรตามข้างล่างนี้ครับแต่ควรโทรไปที่โรงพยาบาลก่อน 02 667 1555 เพราะบางทีคุณหมอไปต่างประเทศ หลังจากเช็คคิวแล้ว ควรจะนัดให้คุณหมอตรวจดูก่อนสักครั้ง เพื่อประเมินการรักษานะครับ ปกติถ้าเป็นฝีแล้วก็น่าจะตัดสินใจผ่าได้เลย (ผมไปตรวจครั้งแรกก็เสียแค่ค่าตรวจ 700 กว่าบาท ไม่จ่ายยาให้ครับเพราะว่าคุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดเพราะกินยาไม่หายครับ) จากนั้นจะนัดกับโรงพยาบาลเพื่อผ่าเลยก็ได้ โดยสอบถามคุณหมอเรื่องค่าใช้จ่ายและตกลงราคาให้เรียบร้อย (มีหลายเรทราคาตตามแต่กำลังทรัพย์ครับ แล้วนัดวันผ่าครับ) หรือหากยังไม่พร้อมก็ค่อยติดต่อขอนัดภายหลังก็ได้ แต่ถ้านัดผ่าภายหลังก็ต้องคุยเรื่องการประเมินราคาค่าผ่าตัดกับพยาบาลอีกครั้งซึ่งอาจจะเสนอราคาให้เรทที่สูงสักหน่อย(คาดว่าคงจัด option เต็ม ซึ่งเราอาจขอเลือกในเรทที่ต่ำลงมาอีกก็ได้ ต้องลองสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าจะเปลี่ยนแพ็คเก็จอะไรยังไงบ้าง มีตั้งแต่ 4.5 หมื่น - 1 แสน ครับ ส่วนผมเลือกแบบถูกหน่อยใช้ยาชาอย่างเดียวครับ กัดฟันเจ็บแป๊บเดียวดีกว่าเจ็บฝีไปตลอด ทรมานและชีวิตประจำวันเสียหายกว่ามากครับ

    ตารางเวรคุณหมอครับ
    จ. 13:00 - 15:00
    อ. 13:00 - 15:00
    พฤ. 17:00 - 19:00
    ศ. 13:00 - 15:00
    ส. 13:00 - 16:00

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากๆๆ ค่ะหาข้อมูลอยู่เลย ยังทำงานอยู่จริงๆด้วย อุ่นใจขึ้นมาหน่อย http://www.bumrungrad.com/doctors/Arun-Rojanasakul#sthash.acCi1350.IEVfqLbU.dpbs

      ลบ
    2. อ๋อ ถามอีกนิดคะ ถ้าจะผ่านัดซักค่ำๆ ดีมั้ยคะ ผ่าเสร็จจะได้นอนเจ็บแผล ดีกว่านั่งทรมานตอนกลางวัน TOT

      ลบ
    3. ความเห็นผมนะครับ ไม่ว่าจะนอนหรือจะนั่ง อาการเจ็บผมว่าไม่มากเท่าไหร่ แต่ว่าเราจะยังไม่ชินครับเพราะว่าจะมีผ้าก๊อชอุดอยู่ที่ก้น ทำให้เรารู้สึกว่ามีอะไรติดอยู่ นั่งทับหรือนอนทับก็ทำให้ผ้าก็อชเหมือนจะดันเข้าไปประกบกับแผลมากขึ้นทำให้เราอาจจะ(คิดไปเอง) ว่าถ้านั่งทับหรือนอนทับจะต้องเจ็บแน่ๆ ทำให้เราจะยั้งๆ การเคลื่อนตัว อีกประเด็นคือเราจะรู้สึกกลัวว่าถ้าขยับมาก หรือพลิกตัวมากผ้าก็อชที่อุดจะหลุดหรืออาจกระทบแผล ซึ่งเป็นความรู้สึกไม่ชินและคิดไปเองปนๆ กัน พอรุ่งสาง(ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ ไม่ใช่เพราะเจ็บแผล แต่รู้สึกพลิกตัวนอนลำบาก นอนท่าเดิมนานๆ ก็เมื่อย) ตื่นมาผมปวดอึ เลยต้องเอาผ้าก๊อชออก (พยาบาลบอกว่าถ้าจะอึก็เอาออกได้เลย) หลังจากอึ(ก็ไม่เจ็บนะครับ) พอทำความสะอาดเสร็จ ไม่มีผ้าก๊อชแล้วก็สบายก้นกว่าตอนมันอุดอยู่เยอะ แต่ความรู้สึกมันจะโหวงๆ อยู่ข้างในครับ ความโหวงนี่เองที่ทำให้เรายืน นั่ง นอน นานๆ มากไปก็จะรู้สึกว่ามันหน่วงๆ ลงมา (ผมเดาว่าเพราะเนื้อข้างในมันถูกผ่าเอาฝีออกเนื้อบางส่วนก็อาจจำเป็นต้องหลุดออกมาบ้าง ทำให้รู้สึกโหวงๆ อั้นอึหรือผายลมจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (อั้นได้ไม่เจ็บนะครับ แต่อั้นได้ไม่ดี 555) ซึ่งนี่คือแผลที่ต้องรอให้มันสมานเอง (รอเนื้อผสานกันจนแน่นเต็มที่เดิมของมัน ก็จะไม่โหวงและกระชับเป็นปกติ มีเนื้อเต็มก็อั้นกลั้นได้เหมือนเดิม อันนี้ผมคิดเอาเองจากความรู้สึกนะครับ)

      สรุปครับ สำหรับผมหลังจากผ่าแล้วไม่เจ็บเท่าไหร่นะครับ ผมว่าตอนมีฝีอยู่เจ็บและทรมานกว่าเยอะ นั่งทับไม่ได้บางวันนอนไม่ได้เพราะเจ็บผมว่าแย่กว่าเยอะ แล้วอีกทีที่เจ็บคือตอนสวนก้นก่อนผ่าที่เคยเล่าให้ฟังไปแล้ว หลังผ่าไม่เท่าไหร่ครับ

      ลบ
    4. ลืมเล่าครับ ผ้าก๊อชที่ติดก้นไม่ต้องกลัวหลุดนะครับ หมอแปะเทปยาวถึงแก้มก้น นอนพลิกหรือดิ้นยังไงก็ไม่หลุด แต่บางจังหวะผ้าก็อชที่อุดอยู่มันอาจถูกดันออกมากจากรูก้นของเราเองตามธรรมชาติ เราจะรู้สึกเหมือนผ้ามันหลุด แต่จริงๆ มันไม่หลุดง่ายๆ ตอนแรกที่มันวืดๆ เหมือนผ้าก็อชจะหลุดผมกดเรียกพยาบาลเพราะคิดไปเองว่า ถ้าหลุดเลือดจะกระฉูด ซึ่งพอพยาบาลมาก็ไม่มีอะไรครับ ปกติเพียงแต่เราคิดไปเอง อีกนิดครับหลังจากอึ ถ้ามีผ้าอนามัยเตรียมมาก็ดีครับ เพราะเลือดกับน้ำเหลืองจะซึมๆ ออกมาเลอะอยู่เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่เลือดที่หยดก็ไม่ใช่ว่าจะแดงสดเข้มๆ นะครับ มันจะมีน้ำเหลืองปนออกมามากกว่าเลือดนะครับ (อันนี้เล่าให้ละเอียดเพื่อให้เข้าใจนะครับ อย่าเพิ่งกลัวไป)

      ลบ
  17. อัพเดทเพิ่มเติมเรื่องอาการของผมนะครับ เมื่อวานตอนทำความสะอาดก้น เหมือนจะมีตุ่มเล็กๆ ขึ้นมาตรงตำแหน่งฝีเดิม กดๆ ก็แสบนิดๆ คันหน่อยๆ แต่กังวลว่าจะเป็นซ้ำอีก เลยไปพบคุณหมออรุณเพื่อให้ดูแผล คุณหมอบอกว่า ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล มันก็ยังไม่หายสนิทดี หมอบอกว่าไหนๆ ก็มาแล้วเลยทายาให้ครับ ค่อนข้างแสบ ยามีชื่อไทยว่า "เกลือเงิน" ไม่เคยได้ยินมาก่อน แล้วเหมือนหมอจะชุบยาใส่ทิชชู่หรือผ้าชิ้นเล็กๆ เข้าไปในก้น แต่คงจะเล็กมากเพราะผมไม่รู้สึกว่ามีอะไรติดอยู่เลย จนตอนเย็นนั่งแช่น้ำอุ่นมันหลุดออกมานิดนึง แล้วเมื่อคืนผมก็ไม่อึ(ปกติต้องอึ) พอเช้ามาเวลาประจำก็เลยอึออกมา ปรากฏว่ายังมีเศษผ้าชิ้นเล็กๆ หลุดติดมาด้วย หมอคงจะยัดเข้าไปพอสมควร แต่วันนี้ก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับแผลเท่าไหร่ มันจะมีอาการปวดตึบๆ เป็นช่วงๆ ซึ่งตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมายังไม่เคยมีอาการปวดลักษณะนี้ แต่ก็ไม่ได้ปวดมาก ปวดแบบทนได้ แต่แค่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนที่เคยเป็น ตอนนี้ก็เลยยังกังวลอยู่ครับว่ามันเป็นอะไรกันแน่เพราะว่า อีก 1 อาทิตย์ก็จะครบเดือนหลังจากออกจากโรงพยาบาล แต่ตอนนี้กลับมีอาการปวดแปลกๆ (แต่ว่าไม่มากนะครับ) เลยกังวลมากกับการเป็นซ้ำ เพราะเห็นเป็นซ้ำกันหลายคน แต่หมอดูให้แล้วก็บอกว่าไม่มีอะไรนะครับ ต้องติดตามต่อไป

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อ่าว ไม่ใช่ผ้าตั้งแต่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556 หรอคะ วันที่เขียนบล็อกอ่ะคะพึ่งผ่าเดือนเดียวหรอคะ

      สอบถามอีกนิดคะ ต้องโทรนัดกับพยาบาลเท่านั้นใช่มั้ยคะถึงเข้าไปพบคุณหมอได้ หาข้อมูลมาเยอะเลยมีแต่คนผ่ากับท่านเยอะมากๆ กลัวแบบว่าคิวเต็ม
      ..แล้วถ้านัดผ่าอีกทีเดือนหน้า แบบนี้ทิ้งแผลไว้นาน หนองไม่ยิ่งลุกลามแล้วแย่ลงอีกหรอคะ

      ลบ
    2. เจ้าของบทความคือคุณหมีอ้วนกลม เขียนเนื้อหาไว้ช่วงกันยา 56 แต่ผมไม่ใช่คุณหมีอ้วนกลม เห็นว่าคุณหมีอ้วนกลมไม่ได้มาเขียนต่อก็เลยขอเอาประสบการณ์การผ่าของผมกับคุณหมอมาเล่าต่อครับ เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติม เพราะผมเห็นว่าบทความเดิมของคุณหมีอ้วนกลมนั้นเขียนไว้ละเอียดและดีอยู่แล้วในการอธิบายความเป็นมาของโรค

      เรื่องติดต่อโรงพยาบาลก็เหมือนกับไปหาหมอปกติครับ โทรไปเช็คว่าคุณหมอเข้ามั้ย กี่โมง มีคิวว่างมั้ย ถ้าว่างก็ไปตามเวลาที่นัด พอเจอคุณหมอก็ปรึกษาเรื่องการรักษาหรือการผ่าตัดได้เลยครับ คิวคุณหมอไม่แน่นครับเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชน เพียงแต่ต้องเช็คว่าคุณหมอเข้าหรือไม่เพราะบางทีคุณหมออาจจะมีเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อจะได้ไปไม่เสียเที่ยวครับ เรื่องคิวผ่าตัดไม่น่าต้องรอถึงเดือนครับ อย่างที่บอกเป็นโรงพยาบาลเอกชน อาจจะรอไม่เกิน 1 สัปดาห์ครับ เพราะอย่างตอนที่ผมผ่า คิวของผมต้องรอ 1 อาทิตย์ แต่พอปลายๆ สัปดาห์ผมเริ่มเจ็บฝีมากเลยโทรไปขอให้ร่นวันให้เร็วขึ้น ทางโรงพยาบาลก็จัดคิวให้ครับ แล้วการผ่าตัดไม่ใช่ผ่าตัดใหญ่เหมือนการผ่าโรคร้ายแรง ใช้เวลาแค่ 30-40 นาทีเท่านั้นครับ สรุปแล้วต้องโทรไปคุยครับปรึกษาดู ต่อรองดูครับ

      ลบ
    3. อ๋อ ขอบคุณนะคะ เด๋อเลยเรา คิดว่าเป็นคนเดียวกัน แหะๆ
      เมื่อวานโทรไปนัดหมอละคะวันจันทร์หน้า

      สมมุติ หมอบอกให้ผ่าๆ ได้เลยวันนั้นมั้ยคะ หรือต้องนัดใหม่อีกที ทำใจไม่ถูก
      แล้วหลังผ่าเสร็จสามารถทำกิจวัตร(ในส้วม) ได้ปกติมั้ยคะ หรือต้องให้พยาบาลทำให้บนเตียง น่ากลัวจัง

      ลบ
    4. เรื่องผ่าได้เลยมั้ย น่าจะไม่ได้วันที่ไปหาครั้งแรกนะครับ แต่ถ้าไม่อยากเสียเวลาที่จะต้องมาอีกครั้งก็บอกหมอเลยว่าต้องการผ่า เพื่อนัดวันให้เรียบร้อย แล้วการผ่าจะต้องเตรียมตัวเรื่องการงดน้ำ งดอาหารด้วย (เดี๋ยวพยาบาลจะแจ้งให้ทราบเองเมื่อได้วันนัดแล้วว่าต้องเตรียมตัวยังไง แต่อย่าลืมคุยเรื่องค่ารักษาให้อยู่ในงบที่เราต้องการด้วยนะครับ)

      หลังผ่าเสร็จผมขับถ่ายได้ปกตินะครับ ผมถ่ายหลังจากผ่าไปแล้วประมาณ 10 ชั่วโมง ก็ไม่รู้สึกเจ็บนะครับ (แต่ผมคิดว่าน่าจะอยู่ที่ความลึกของฝีของแต่ละคนมากกว่าครับ) ความเจ็บของผมจะอยู่ที่ขั้นตอนการสวนก้นก่อนผ่ามากกว่า เพื่อให้เราอึเอาของเสียออก (เหมือนทำความสะอาดก่อนผ่า เพราะเดี๋ยวหมอผ่าแล้วมีของเสียค้างอยู่มันจะไม่งามครับ 55 โดยส่วนตัวผมว่าผมเจ็บขั้นตอนนี้มากที่สุด แต่ก็ชั่วโมงนึงก็ดีขึ้น) แต่ผมเล่าเพื่อให้เตรียมตัวเตรียมใจถูกไม่ได้อยากให้รู้สึกกลัวนะครับ และผมคิดว่าคนไข้แต่ละคนอาการไม่เหมือนกัน อาจจะไม่เหมือนตามที่ผมเล่าทั้งหมดครับ สู้ๆ ครับ ก่อนหน้านี้ผมก็กลัวการผ่า แต่เมื่อผ่าแล้วก็ยอมรับว่า ผ่านั้นดีที่สุดแล้ว ดีกว่าทรมานกับการเจ็บฝีไม่รู้จักจบสิ้นครับ เจ็บแต่จบครับ

      ลบ
    5. ขอบคุณ คุณ olala มากครับ มาช่วยกันแชร์ประสบการณ์กันนะครับ

      ลบ
  18. ผมผ่าที่จุฬามา เกือบๆ2 เดือนเเล้วแผลยังไม่ปิดเเละมีนําเหลืองกับหนองออกมาอยู่เล็กน้อย
    เเต่ไม่ปวดเหมือนตอนเป็นฝีเเล้วไม่ทราบว่าคุณ olala ยังมีหนองอยู่มัเยครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมกำลังจะครบ 1 เดือน รู้สึกว่าวันไหนที่เดินเยอะมากๆ เหมือนจะมีหนองไหล แต่ไม่มั่นใจว่าใช่หนองหรือน้ำเหลือง แต่วันที่ไม่ได้เดินมากก็จะยังมีเลือดกับน้ำเหลืองซึมๆ อยู่บ้าง แต่ไม่ปวดครับ ดีกว่าตอนเป็นฝีเยอะ แต่มีอาการคันเป็นช่วงๆ ครับ

      ลบ
    2. ของผม 2-3 เดือนครับกว่าหนองจะหมดจริงๆครับ

      ลบ
  19. วันนี้ไปตรวจกับ อ. อรุณ มาแล้วค่ะ ตอนแรกตื่นเต้น แต่พอตรวจกับท่านแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมากๆๆ ค่ะ ใจดี ให้คำปรึกษาดีมากๆ แล้วพูดทุกอย่างให้รู้สึกดี แนะนำราคาตามจริง ไม่ยัดเยียดราคาแพงให้ เราตัดสินใจแค่ฉีดยาชา กับยานอนหลับคะ นอน1 คืน นัดหมอผ่าวันเสาร์นี้จ้า ราคาประเมิณ 50,000 กว่าๆคะ ผ่าเสร็จยังไงจะมารีวิวบ้างนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดีใจด้วยครับ วันเสาร์ได้คิวผ่ากี่โมงครับ (เผื่อว่างอาจจะแวะไปเยี่ยม 555) ยังไงก็เตรียมร่างกายเตรียมใจให้สบายๆ ครับ จะได้หายนะครับ แล้วมารีวิวแลกเปลี่ยนกัน แต่ดูท่าทางแล้วเหมือนตอนนี้ยังไม่เจ็บฝีมากหรือเปล่าครับ ของผมก่อนผ่าเจ็บจนนอนไม่ได้เลยครับ ผ่าแล้วก็สบายครับ

      ลบ
  20. มารายงานความคืนหน้าครับ ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 1 เดือน นับจากวันที่ผ่า รู้สึกว่าดีขึ้นครับ เหมือนเนื้อขึ้นใกล้เต็มแล้ว(มั้ง) อาการเล็ดของของเสียก็น้อยลง และดูเหมือนว่าจะไม่มีเลือดหรือน้ำเหลืองซึม (เท่าที่ทำความสะอาดช่วงสองสามวันนี้มีเลอะออกมาน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยครับ) แต่วันนี้ดันกินของเผ็ดไป รู้สึกว่าตอนขับถ่ายจะทรมานนิดนึง แต่ก็มีแปลกอยู่อย่างคือแต่ก่อนตอนอึไม่มีความรู้สึกเจ็บหรือขัดๆ อะไรมากมาย แต่หลังจากที่หมอใส่ยาให้เมื่อวันก่อน เวลาอึจะมีความรู้สึกนิดนึงที่แผล แต่ไม่ได้เจ็บจนแบบรวดร้าวอะไรนะครับ แต่รู้สึกได้ว่าเออมันแว็บๆ มาเป็นบางช่วง แม้กระทั่งตอนที่ไม่ได้อึ ช่วงนี้บางทีก็มีอาการปวดตุบๆ ที่แผลนิดหน่อย แต่รู้สึกได้ว่าข้างในก้นเนื้อเริ่มกระชับดี 555 เรื่องอาการคันก็แทบไม่มีแล้วครับคิดว่าน่าจะใกล้หายแล้วครับ

    ตอบลบ
  21. ขอเล่าบ้างครับ....ผมเป็นมา ประมาณ 3 -4 ปีได้ เรียกได้ว่าเป็นๆหายๆ ครั้งแรกที่เป็นนี่ปวดทรมานสุดๆ จนทนไม่ไหว ต้องไปหาหมอผ่าเอาหนองออก ตอนไปนี่ปวดแทบเดินไม่ได้เลย แถมเป็นไข้ด้วย พอหมอผ่าเอาหนองออกเท่านั้นแหล่ะ ไข้นี่หายเลย แถมเดินได้ทันที แต่หลังจากนั้นมา หนองมันก็ไหลเยิ้มเป็นๆหายๆตลอด 3-4 ปี มีเพิ่มมาอีก2-3ตุ่ม แบบพอทนได้ คาดว่ามันไม่อยู่ลึกเลยแตกเองเจ็บนิดๆหน่อยๆ ไข้นิดๆหน่อยๆ เป็นๆหายๆ แบบตุ่มนี้เป็นตุ่มนี้หายสลับกัน...แต่มาครั้งล่าที่ตัดสินใจไปหาหมอเพราะทนไม่ไหวแล้ว ปวดทรมานสุดๆจะแตกก็ไม่แตก นั่งก็เจ็บนอนก็เจ็บ เป็นไข้และทรมานเจ็บแบบนั้นเกือบ4วัน เลยตัดสินใจตายเป็นตายไปหาหมอให้หมอผ่าดีกว่า.... แจ่พอไปหาหมอ.คุยกับหมอสัญ หมอบอกว่า ผ่าแล้วมีโอกาสเป็นอีกนะ ไม่ให้หมอเลาะออกแบบผ่าครั้งเดียวหายเลยเหรอ?? ก็เลยออกมานอกห้องปรึกษากับแฟน ..อืม.ที่หมอบอกก็เห็นด้วยเป็นที่สุดเพราะเป็นๆหายๆแบบนี้ทรมานเหมือนตายทั้งเป็น เอาน่ากลั้นใจทนเจ็บหน่อยให้หมอผ่าท่าจะดี ถึงแม้ว่าตั้งแต่เกิดมาจะไม่เคยต้องขนาดผ่าตัดหรือขนาดต้องนอนโรงพยาบาลเลยก็ตาม ทนๆเอาน่า..ก็เลยไปปรึกษาหมอเรื่องค่าใช้จ่าย? และเรื่องการผ่าว่าต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง? ถ้าเกิดว่าผมโอเคตัดสินใจผ่าใหญ่นะครับ... คุณหมอจะผ่าใหญ่เลยโดยเจ็บตัวครั้งเดียว ไม่ต้องระบายหนองอันที่เจ็บอยู่ขณะนี้ก่อนให้มันแห้งก่อนใช่ไหมครับคุณหมอ?? หมอบอกว่าใช่ ...แค่จองห้อง admit นอนรอเวลาผ่า อดข้าวอดน้ำ รวมทั้งเอ๊กเรย์ ตรวจคลื่นหัวใจ เจาะเลือด อะไรต่างๆนาๆเสร็จ ก็ประมาณ 3-4 ชม.ก็ได้ผ่าเลย... ค่าใช้จ่าย เหมารวมทุกอย่าง 28000 บาท มีส่วนลดในฐานะที่ครอบครัวใช้โรงบาลนี้ประจำ เหลือ 23000 เลือกห้องได้ด้วย ...ด้วยความปวดทรมานเพราะโรคนี้มานาน ค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ก็คงต้องกลั้นใจจ่าย เป็นอันว่าตกลง ..ก็เลยเลือกห้องที่แพงที่สุดที่ จนท.เอามาให้เลือก คือเลือกห้องเดี่ยว ราคาเกือบ 4000...

    ตอบลบ
  22. 55555+ ผมว่า ราคาเหมารวมห้อง ไม่มีใครหรอกครับที่เลือกห้องที่ถูกที่สุด เลือกห้องถูกก็ต้องจ่ายเหมารวม 23000 กับเลือกห้องแพงสุดก็ต้องจ่ายเหมารวม 23000 ไม่น่าเอามาให้เลือกเลยเน้อครับ..ขณะพิมพ์อยู่นี่ผมมานั่งคิด ถือว่าผมคุ้มมากเลยกับการผ่าครั้งนี้ ตอนก่อนจะผ่า ทั้งเอ๊กเรย์ ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจเลือด แถมตอนผ่าอีก เครื่องมือสารพัดที่ประเคนใส่มาในตัวผม เจ้าหน้าที่นับรวมได้ในห้องผ่า 6 คน หมอสัญ 1 คน...หมอฉีดยาบล็อคหลัง 1 คน...หมอคุมเครื่องอะไรไม่รู้ ที่มันร้องติ๊ดๆ ตลอด 4-5 นาที 1คน...ผู้ช่วยหมอ อีก 3 คน ไม่รู้ว่าทำอะไรเหมือนกัน พอดีตอนหมอสัญผ่า จนท.เอาผ้าบังไว้ไม่ให้เห็นก็เลยไม่รู้ว่าทำอะไรกับก้นเราไปบ้าง... มารู้อีกทีตอนที่หมอผ่าเสร็จแล้ว หมอเอาแท็บเลตถ่ายรูปแผลที่ผ่าประมาณ 4-5 รูปมาให้ผมดู(ตอนผ่าเสร็จผมนอนดู) น่าเกลียดน่ากลัว+สยองมาก คุณหมอบอกว่า ตอนแรกคิดว่ามี2จุด แต่เจออีก 1 ก็เลยผ่าแถมให้รวมเป็น 3... 55555+มิน่าล่ะเยินขนาดนั้น...แต่หมอบอกว่าไม่ต้องกลัว มันจะหายเอง ภายใน 1 เดือน...โล่งอกไป ... หลังจากนั้นก็ถูกเข็นมาห้องพักฟื้น ขานี่ชากระดิกไม่ได้ รู้สึกทรมานมาก วินาทีนั้นเข้าใจคนเป็นอำมพาตเลย มันรู้สึกอึดอัด รู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก แปลกทั้งๆที่ส่วนร่างไม่รู้สึกมันน่าจะสบายสิ แต่นี่กลับอึดอัด ก็แปลกดีครับ...ตอนนอนห้องพักฟื้นนี่ เวลาเดินช้ามาก ผมแอบเหลือบไปูนาฬิกาที่แขวนติดผนังตลอดเวลา 10-20นาทีแรกอาการปรกติ หลังจากนั้นรู้สึกว่า ตัวเองหน้ามืดทั้งๆที่นอนอยู่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่นั่งเฝ้าดูอาการผม เจ้าหน้าที่ประจำห้องพักฟื้นรีบเข้ามาดูอาการผม แล้วก็ปรับเตียงตรงส่วนหัวให้สูงขึ้น หาหมอนอีกอันมาหนุนด้วย ไม่ถึง1นาทีอาการดีขึ้น จนท.บอกว่าเกิดจากผลข้างเคียงของยาบล็อคหลัง

    ตอบลบ
  23. ของผมพึ่งไปหาหมอมาล่าสุด หมอสรุปว่าต้องผ่าอีกรอบครับ เเต่ผมไม่ได้ผ่ากับหมออรุณนะครับ เป็นอาจารย์หมอที้จุฬา อีกท่านนึง ผ่าอีกรอบเมื่อไรจะมาบอกครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สอบถามเพิ่มเติมครับ อาการที่แสดงให้เห็นว่าฝีมันขึ้นมาซ้ำนั้นอาการเป็นยังไงครับ หรือว่าอาการเหมือนตอนเป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่า แล้วตอนผ่าครั้งแรกผ่ากับคุณหมออรุณใช่มั้ยครับ ขอบคุณครับ

      ลบ
    2. ผ่าครั้งเเรกกับอาจารย์ท่านนี้เเหละครับ ไม่ได้ผ่ากับหมออรุณ
      อาการก็คือตอนครบเดือนนํ้าเหลืองลดน้อยลงมากเหมือนจะหายเเล้ว เเต่อยู่ดีๆตอนถ่ายมีเลือดไหลออกมามากจนน่าตกใจ หลังจากนั้นเเผลก็จะมีนํ้าเหลืองเเละหนองกับเลือดมาเรื่อยๆเเต่ไม่มากเหมือนตอนเเรก เเล้วเเผลที่ผ่าก็ไม่ปิดครับ เเต่ก็ยังใช้ชีวิตได้สบายกว่าตอนเปนฝีเยอะ

      ลบ
    3. เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้รอบนี้หายถาวรเลยนะครับ

      ลบ
  24. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขออนุญาต เล่าและแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ของผมที่ได้ไปผ่าฝีคัณฑสูตรบ้างครับผม ..
      .
      ผมรู้ตัวเองว่าเป็นฝีคัณฑสูตรครั้งแรกก็เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นจำได้ไม่ลืมเพราะ
      อยู่ๆก็รู้สึกปวดก้น ใกล้ๆรูทวารหนัก เอามือลูบๆจับดูปวมเป่งเลย
      เหมือนกับมันเป็นฝีอยู่ข้างใน กินไม่ได้นอนไม่หลับ นอนหลับๆตื่นๆพลิกซ้ายก็เจ็บพลิกขวาก็เจ็บ ต้องสะดุ้ง
      ตื่นตอนนอนเพราะความเจ็บเป็นสิบๆรอบ แถมเป็นไข้ด้วย เรียกได้ว่าทรมานสุดๆ
      จะไปหาหมอก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้จะบอกหมอว่าไง ถ้าหมอขอดูไอ้ที่ปวด ต้องถลกกางเกงให้หมอดูเหรอ? อายหมอตายน่ะสิ?
      เจ็บแบบนี้ถึง4วัน4คืน จนทนไม่ไหว ตายเป็นตายจึงตัดสินใจไปหาหมอ... ตอนนั้นไปโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม ก็ตามที่คิดไว้เลย
      หมอให้ถอดกางเกง นอนตะแคงแล้วงอขา เพื่อดูตรงที่ปวด แล้วหมอบอกว่า ต้องผ่าน่ะ..ผมตอบไปว่า "ครับหมอ"ตอนนั้นคิดไว้แล้วว่า
      ถึงยังไงก็ต้องผ่า แต่การผ่าครั้งนี้เรียกได้ว่า เจ็บที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้(ทำให้ต่อมา กลัวการผ่าฝีคัณฑสูตรเข้าไส้เลยก็ว่าได้)
      คุณหมอผ่าโดยการฉีดยาชาเฉพาะที่(คุณหมอว่างั้น)แต่ไม่มีความรู้สึกชาเลยแม้แต่น้อย เจ็บสุดๆ คุณหมอใช้เวลาผ่า
      เอาหนองออก ประมาณ 15 นาทีแล้วเอา
      ผ้าก๊อตยัดเข้าไปในแผล เอาผ้าก็อตปิดแผลอีกชั้นนึง นัดอีก 4 วันให้มาหาหมอมาล้างแผล ตอนนั้นคิดไว้แล้วว่า ยังไงก็ไม่มาแล้ว คุณหมอมือหนักชะมัดเข็ดจริงๆ
      .
      แต่เอ่อออออ!!.ความเจ็บปวดที่ทรมานมา4วันรวมทั้งไข้ที่เป็นนั้น มันหายไปเลยในทันที โอ้ววว วิเศษมาก...
      สำหรับตอนนั้นผมก็คิดว่ามันคือการเป็นฝีธรรมดา
      เพราะหมอที่ผ่าก็ไม่ได้บอกอะไรเลย หลังจากที่ผ่า มันก็มีน้ำหนองไหลแบบเป็นๆหายๆ วันดีคืนดี จากที่เป็นจุดเดียว พวกก็เพิ่มมาให้ทรมานอีก
      โดยเป็นตุ่มฝีอีกฝั่งนึง แต่ครั้งนั้นทนเจ็บอยู่ 2 วันรวมทั้งเป็นไข้ด้วย อยู่ๆมันก็แตกเอง (ดีแฮะ)..หลังจากนั้น มันก็ผลัดกันเป็นผลัดกันหาย
      พวกก็ผลัดกันเป็น ผลัดกันปวด ผลัดกันบวม ผลัดกันแตก ทนทรมานวนเวียนแบบนี้มา 4-5 ปี ทุกครั้งที่เป็นมันจะพาให้เราพาลเป็นไข้ไม่มีกระจิตกระใจ
      ทำอะไรเลย.
      .
      จนครั้งล่าสุด รู้สึกตัวเองเลยว่าเป็นหนักกว่าครั้งแรก คิดว่ามันคงเป็นฝีอยู่ในจุดที่ลึกที่สุด ครั้งนี้ทรมานยิ่งกว่าครั้งแรก แบบทนเจ็บทนเป็นไข้อยู่3วัน
      ไม่ไหวแน่ เลยตัดสินใจไปหาหมอ ไปหาโรงพยาบาลเอกชนดีกว่า ยอมเสียตังค์เผื่อจะไม่เจ็บเหมือนครั้งแรก (ครั้งแรกแค่คิดก็สยองแล้ว)
      ก่อนไปหาหมอ ผมรู้แล้วว่ายังไงก็ต้องผ่าเหมือนครั้งแรก แต่ครั้งนี้ผมรู้แล้วว่าตัวผมเป็นอะไรแน่ เพราะหาข้อมูลอาการของโรคนี้
      ก็ตั้งแต่ตอนที่มันเรื้อรังไม่ยอมหาย คือหาข้อมูลในเน็ตนี่แหล่ะครับ

      ลบ
    2. ขออนุญาต เล่าและแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ของผมที่ได้ไปผ่าฝีคัณฑสูตรบ้างครับผม ..
      .
      ผมรู้ตัวเองว่าเป็นฝีคัณฑสูตรครั้งแรกก็เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นจำได้ไม่ลืมเพราะ
      อยู่ๆก็รู้สึกปวดก้น ใกล้ๆรูทวารหนัก เอามือลูบๆจับดูปวมเป่งเลย
      เหมือนกับมันเป็นฝีอยู่ข้างใน กินไม่ได้นอนไม่หลับ นอนหลับๆตื่นๆพลิกซ้ายก็เจ็บพลิกขวาก็เจ็บ ต้องสะดุ้ง
      ตื่นตอนนอนเพราะความเจ็บเป็นสิบๆรอบ แถมเป็นไข้ด้วย เรียกได้ว่าทรมานสุดๆ
      จะไปหาหมอก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้จะบอกหมอว่าไง ถ้าหมอขอดูไอ้ที่ปวด ต้องถลกกางเกงให้หมอดูเหรอ? อายหมอตายน่ะสิ?
      เจ็บแบบนี้ถึง4วัน4คืน จนทนไม่ไหว ตายเป็นตายจึงตัดสินใจไปหาหมอ... ตอนนั้นไปโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม ก็ตามที่คิดไว้เลย
      หมอให้ถอดกางเกง นอนตะแคงแล้วงอขา เพื่อดูตรงที่ปวด แล้วหมอบอกว่า ต้องผ่าน่ะ..ผมตอบไปว่า "ครับหมอ"ตอนนั้นคิดไว้แล้วว่า
      ถึงยังไงก็ต้องผ่า แต่การผ่าครั้งนี้เรียกได้ว่า เจ็บที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้(ทำให้ต่อมา กลัวการผ่าฝีคัณฑสูตรเข้าไส้เลยก็ว่าได้)
      คุณหมอผ่าโดยการฉีดยาชาเฉพาะที่(คุณหมอว่างั้น)แต่ไม่มีความรู้สึกชาเลยแม้แต่น้อย เจ็บสุดๆ คุณหมอใช้เวลาผ่า
      เอาหนองออก ประมาณ 15 นาทีแล้วเอา
      ผ้าก๊อตยัดเข้าไปในแผล เอาผ้าก็อตปิดแผลอีกชั้นนึง นัดอีก 4 วันให้มาหาหมอมาล้างแผล ตอนนั้นคิดไว้แล้วว่า ยังไงก็ไม่มาแล้ว คุณหมอมือหนักชะมัดเข็ดจริงๆ

      ลบ
  25. ขออนุญาต เล่าและแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ของผมที่ได้ไปผ่าฝีคัณฑสูตรบ้างครับผม ..
    .
    ผมรู้ตัวเองว่าเป็นฝีคัณฑสูตรครั้งแรกก็เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นจำได้ไม่ลืมเพราะ
    อยู่ๆก็รู้สึกปวดก้น ใกล้ๆรูทวารหนัก เอามือลูบๆจับดูปวมเป่งเลย
    เหมือนกับมันเป็นฝีอยู่ข้างใน กินไม่ได้นอนไม่หลับ นอนหลับๆตื่นๆพลิกซ้ายก็เจ็บพลิกขวาก็เจ็บ ต้องสะดุ้ง
    ตื่นตอนนอนเพราะความเจ็บเป็นสิบๆรอบ แถมเป็นไข้ด้วย เรียกได้ว่าทรมานสุดๆ
    จะไปหาหมอก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้จะบอกหมอว่าไง ถ้าหมอขอดูไอ้ที่ปวด ต้องถลกกางเกงให้หมอดูเหรอ? อายหมอตายน่ะสิ?
    เจ็บแบบนี้ถึง4วัน4คืน จนทนไม่ไหว ตายเป็นตายจึงตัดสินใจไปหาหมอ... ตอนนั้นไปโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม ก็ตามที่คิดไว้เลย
    หมอให้ถอดกางเกง นอนตะแคงแล้วงอขา เพื่อดูตรงที่ปวด แล้วหมอบอกว่า ต้องผ่าน่ะ..ผมตอบไปว่า "ครับหมอ"ตอนนั้นคิดไว้แล้วว่า
    ถึงยังไงก็ต้องผ่า แต่การผ่าครั้งนี้เรียกได้ว่า เจ็บที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้(ทำให้ต่อมา กลัวการผ่าฝีคัณฑสูตรเข้าไส้เลยก็ว่าได้)
    คุณหมอผ่าโดยการฉีดยาชาเฉพาะที่(คุณหมอว่างั้น)แต่ไม่มีความรู้สึกชาเลยแม้แต่น้อย เจ็บสุดๆ คุณหมอใช้เวลาผ่า
    เอาหนองออก ประมาณ 15 นาทีแล้วเอา
    ผ้าก๊อตยัดเข้าไปในแผล เอาผ้าก็อตปิดแผลอีกชั้นนึง นัดอีก 4 วันให้มาหาหมอมาล้างแผล ตอนนั้นคิดไว้แล้วว่า ยังไงก็ไม่มาแล้ว คุณหมอมือหนักชะมัดเข็ดจริงๆ
    .
    แต่เอ่อออออ!!.ความเจ็บปวดที่ทรมานมา4วันรวมทั้งไข้ที่เป็นนั้น มันหายไปเลยในทันที โอ้ววว วิเศษมาก...
    สำหรับตอนนั้นผมก็คิดว่ามันคือการเป็นฝีธรรมดา
    เพราะหมอที่ผ่าก็ไม่ได้บอกอะไรเลย หลังจากที่ผ่า มันก็มีน้ำหนองไหลแบบเป็นๆหายๆ วันดีคืนดี จากที่เป็นจุดเดียว พวกก็เพิ่มมาให้ทรมานอีก
    โดยเป็นตุ่มฝีอีกฝั่งนึง แต่ครั้งนั้นทนเจ็บอยู่ 2 วันรวมทั้งเป็นไข้ด้วย อยู่ๆมันก็แตกเอง (ดีแฮะ)..หลังจากนั้น มันก็ผลัดกันเป็นผลัดกันหาย
    พวกก็ผลัดกันเป็น ผลัดกันปวด ผลัดกันบวม ผลัดกันแตก ทนทรมานวนเวียนแบบนี้มา 4-5 ปี ทุกครั้งที่เป็นมันจะพาให้เราพาลเป็นไข้ไม่มีกระจิตกระใจ
    ทำอะไรเลย.
    .
    จนครั้งล่าสุด รู้สึกตัวเองเลยว่าเป็นหนักกว่าครั้งแรก คิดว่ามันคงเป็นฝีอยู่ในจุดที่ลึกที่สุด ครั้งนี้ทรมานยิ่งกว่าครั้งแรก แบบทนเจ็บทนเป็นไข้อยู่3วัน
    ไม่ไหวแน่ เลยตัดสินใจไปหาหมอ ไปหาโรงพยาบาลเอกชนดีกว่า ยอมเสียตังค์เผื่อจะไม่เจ็บเหมือนครั้งแรก (ครั้งแรกแค่คิดก็สยองแล้ว)
    ก่อนไปหาหมอ ผมรู้แล้วว่ายังไงก็ต้องผ่าเหมือนครั้งแรก แต่ครั้งนี้ผมรู้แล้วว่าตัวผมเป็นอะไรแน่ เพราะหาข้อมูลอาการของโรคนี้
    ก็ตั้งแต่ตอนที่มันเรื้อรังไม่ยอมหาย คือหาข้อมูลในเน็ตนี่แหล่ะครับ

    ตอบลบ
  26. ไปโรงพยาบาล แจ้งอาการตรงเค้าเตอร์ แล้วไปยังส่วนศัลยกรรม เพื่อพบคุณหมอ ...คุยกับหมอศัล คุณหมอซักประวัติเล็กๆน้อยๆ แล้วถอดกางเกง จับตรงบวมนิดนึง
    มือคลึงตรงตุ่มอีกข้างหน่อยนึงที่มันเป็นๆหายๆ หมอก็ทราบทันทีว่าผมเป็นฝีคัณฑสูตร
    .
    แล้วคุณหมอก็มานั่งคุยวิธีการรักษา ว่า ถ้าคนไข้จะผ่าระบายหนองก็ได้ แต่ถึงยังไงมันก็ไม่หายขาด ทนเจ็บครั้งเดียวผ่าใหญ่ไปเลยไม่ดีหรือ? โอกาสหายขาด 90-95
    เปอร์เซนต์เลย
    .
    ตอนนั้นเตรียมใจมาเพื่อผ่าระบายหนองออกอย่างเดียว แต่คุณหมอแนะนำและเสนอมาอย่างนั้น ผมเห็นด้วยกับคุณหมอเป็นอย่างยิ่ง
    (ผมคิดว่าใครที่เป็นอย่างผม ต้องคิดอยากจะหายขาดกันทุกคนเหมือนผมแน่ๆ)
    ก็เลยถามคุณหมอ1.เรื่องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?..2.ผ่าใหญ่ครั้งเดียว เจ็บตัวครั้งเดียว โดยไม่ต้องผ่าเล็กเพื่อระบายหนองอันที่ปวดออกก่อน
    ใช่หรือไม่?.. 3.ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย (แม้แต่เสื้อผ้า หรือการงดอาหารงดน้ำก่อนการผ่า) สามารถผ่าได้หรือไม่?
    .
    คุณหมอตอบ ข้อ 2 กับ ข้อ 3 ว่า"ได้ ทำได้เลย นอนโรงพยาบาล 1 คืนสามารถกลับบ้านได้เลย"
    ส่วนข้อ1 เรื่องค่าใช้จ่าย ให้คุยกับเจ้าหน้าที่อีกฝ่าย เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ค่าเหมาจ่ายทั้งหมด รวมค่าห้อง 28000 บาท มีส่วนลด(น่าจะเพราะครอบครัวผมลูกและเมียรักษาที่นี่ทุกครั้ง)
    สรุปเหมาจ่าย 23000 บาท .. อย่างที่บอกครับ ตอนนั้นไม่ได้เตรียมตัวเพื่อผ่าใหญ่เลยแม้แต่น้อย ก็เลยขอออกมานอกห้อง
    ปรึกษากับแฟน แต่ใจผมได้ตัดสินตกลงที่จะยอมผ่าแล้ว ส่วนแฟนผมเห็นผมทรมานเพราะโรคนี้มานานก็สงสาร แพงมากกว่านี้ แฟนผมบอกก็ยอมจ่าย
    (ซึ้งน้ำตาแทบไหล)ตกลงเห็นตรงกันว่าผ่า ก็เลยไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่และถามถึงการเตรียมตัว.
    เจ้าหน้าที่ เอาแบบห้องมาให้เลือก งงๆ ก็เลยถาม เจ้าหน้าที่ว่า ถ้าเลือกได้ก็ขอเลือกห้องเดี่ยวที่แพงที่สุด 555+ ผมว่าทุกคนก็ต้องเลือกแบบผม
    เพราะมันเป็นราคาเหมารวม จะเลือกห้องถูกก็ราคาเหมารวม 23000 บาท จะเลือกห้องแพงก็ราคาเหมารวม 23000
    สรุป ไม่มีใครเลือกห้องถูกหรอกครับ(นึกในใจ จนท.เอามาให้เลือกเพื่อ?)สรุปที่ผมเลือก เป็นห้องเดี่ยว รวมค่าอาหาร รวมอะไรไม่รู้หลายอย่าง
    ราคาห้องนี้จำได้อยู่ที่ประมาณ เกือบ 4000 ต่อคืน.. ตอนที่นั่งพิมพ์อยู่นี่ ยังนึกเลยว่า การผ่าครั้งนี้คุ้มจริงๆ ถือว่าไม่แพงเลยกับเงินที่เสียไป
    เพราะคำนวณจากบุคลากรที่ต้องมาง่วนอยู่กับผมนี่หลายคนหลายฝ่าย เช่น ฝ่ายวัดไข้วัดความดันตอนนอนพักฟื้น1คืน มาวัดทุก 3-4ชม.ฝ่ายเอ๊กเรย์ ฝ่ายตรวจคื่นหัวใจ ฝ่ายตรวจเลือดเจาะเลือด เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เฝ้าที่ห้อง
    พักฟื้น เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในห้องผ่าอีก 6 คนมี หมอฉีดยาบล็อคหลัง 1คน(อยู่ในห้องชวนคุยจนผ่าเสร็จ) หมอศัล 1 คน เจ้าหน้าที่คุมเครื่องอะไรไม่ทราบที่เอาสายระโยงระยางมายังตัวผม
    1คน .ผู้ช่วยอีก 3 คน เห็นเดินเข้าๆออกๆ คอยช่วยทำอะไรบ้างก็ไม่อาจทราบได้ครับ เพราะพอหมอบล็อคหลังเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็
    เอาผ้ามากั้นไม่ให้เห็นว่า หมอและเจ้าหน้าที่ทำอะไรบ้าง
    -----------------------

    เดี๋ยวจะมาเล่าต่อ เรื่องการเตรียมตัวก่อนการผ่า ว่าหลังจากที่เลือกห้องได้แล้วต้องทำอะไรบ้างครับ

    ตอบลบ
  27. ขออภัย ผมพยายามโพสประสบการณ์การผ่าฝีคัณฑสูตรแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ท่านที่สนใจ รบกวนติดตามอ่านได้ที่
    http://recordsthai45rpm.blogspot.com/2014/02/blog-post_5.html

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากครับ ผมขอใส่ลิงค์ในบทความไปเลยนะครับจะได้คลิกง่ายๆ

      ลบ
  28. คุณ olala น่าจะผ่าก่อนผมไม่กี่วัน ของผมอีก 1 อาทิตย์ก็จะครบ1เดือนที่ได้ไปผ่ามาครับ อาการของผมตอนนี้เกือบจะหายแล้วครับ แต่ก็ยังพอมีน้ำเหลืองออกบ้างนิดหน่อยเป็นบางช่วงบางจังหวะ ตั้งแต่ผ่าวันแรกจนถึงปัจจุบัน ผมใช้วิธี เอากระดาษทิชชูคุณภาพดีๆหน่อยเหนียวๆแบบที่ขายเป็นซองในห้าง แบบที่ดึงแล้วมันออกมาทีละแผ่น ใช้1แผ่นแปะตรงช่องระหว่างก้น ให้มันทำหน้าซับน้ำเหลือง แค่นี้สำหรับผมก็เอาอยู่แล้วครับ ..ไม่อยากใช้ผ้าอนามัยด้วยเพราะไม่ชิน

    ตอบลบ
  29. รายงานความคืบหน้าคะ พึ่งไปผ่ามาเมื่อวานตอน 6 โมงเย็นคะเช้าวันนี้กลับบ้านได้เลย ตอนผ่าฉีเแค่แก้ปวดตรงสะโพก / กินยานอนหลับ แล้วถึงเวลาผ่าก็ฉีดแค่ยาชาค่ะ ฉีดไปเกือบสิบจุด แล้วแปปเดียวก็ชาเลย ผ่าแบบไม่เจ็บเลยคะ คุณหมออรุณผ่าไปฮัมเพลงไปคะ ชิวมากๆ 55 แต่เราตื่นเต้นมากแล้วแอร์ในห้องก็หนาว จนสั่นเลยคะตอนหลังๆ ผ่าเสร็จไวมากรู้สึกเหมือนพึ่ง 15 นาทีเย็บแผลเรียบร้อย
    เมื่อคืนพอเข็นออกจากห้องผ่าตัดมาไม่เจ็บเลยคะ แต่ก็มึนยานอนหลับอยู่
    กินข้าวเสร็จแปปนึง พอผิดไฟปุ้บเราหลับไปเลยแบบไม่รู้ตัว แต่ปรากฏว่าหลับๆตื่นๆ พอตี3 นี่ตาสว่างมาก ประกอบกับปวดแผลแบบหน่วงๆ จนไม่กล้าขยับตัวเยอะ นอนตะแคงรู้สึกเหมือนจะเจ็บน้อยกว่า แต่นอนไปพักนึงขาที่โดนทับก็ปวดแทนคะ 55

    ตอนทิ้งผ้าก้อตที่อุดแผลไว้เลือดก็ไม่เยอะเท่าไร แผลเราคงเล็กอะคะ เมื่อเช้าคุณหมอมาก็ไม่ได้ดูแผล เพียงแต่แนะนำแล้วก็บอกว่าแผลเรียบร้อยดีแล้ว อ.อรุณไม่จ่ายยาใดๆ เลยคะ ให้แต่ยาแก้ปวดมา
    ตอนนี้แผลแห้งแทบจะไม่มีเลือดหรือหนองออกมาเลยคะ โอเคมาก แต่ยังปวดอยู่ไม่หาย กินยาแก้ปวดช่วยบรรเทาได้คะ แต่ยังไม่ค่อยกล้านั่งเปล่าๆ ซื้อห่วงยางสำหรับนั่งมาใช้คะ แต่ส่วนใหญ่ก็นอนพักเอา

    ค่าใช้จ่ายออกมาไม่แพงอย่างที่คิด ผ่าที่ รพ.บำรุงราษฎร์ กับ อ.อรุณ ฉีดยาชา+นอนห้อง2เตียง รวมเบ็ดเสร็จ 42000 ค่ะ ทีแรกราคาประเมิณ 45000-60000 คะ

    ยังไงถือว่าเป็นประสบการณ์ละกันคะ ทำให้ได้รู้ว่ามีใครบ้างที่รักและห่วงใยเราจริงๆด้วย ^^

    ตอบลบ
  30. ผ่ามาแล้วเหมือนกันคะ ตอนนี้ดีขึ้นมาก ลองอ่านดูคะเขียนบล้อกไว้แบ่งปันเหมอืนกันจ้า
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=gukgif&month=10-02-2014&group=1&gblog=1

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากครับ ผมขออนุญาตใส่ลิงค์ในบทความจะได้คลิกง่ายๆนะครับ

      ลบ
    2. ของเราผ่ากับอ.อรุณ ฉีดยาชาอย่างเดียวนะคะ ห้องคู่ด้วย รวมยอดประมาณ 46000 บาทค่า ^^ ไม่เจ็บๆ

      ลบ
  31. สอบถามอีกนิดจ้า ผ่ามากันครบเดือนแล้วแต่เราพึ่งผ่าอาทิตยฺเดียว การใช้ชีวิตเป็นไงบ้างคะนั่ง/เดินนานๆได้มั้ย เวลาไปข้างนอกยังไม่ค่อยกล้าไปนาน้ลยคะไปซัก4 ชม.ต้องรีบกลับบ้าน นั่งก็ยังไม่กล้าทิ้งน้ำหนักเต็มตัว ปกติอยู่บ้านจะนั่งห่วงยาง แต่ออกข้่างนอกนั่งเอียงๆเอา เมื่อวานกลับมาปวดตัวด้านซ้ายไปหมด สงสัยเกร๋็งมากไป แหะๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อ้อ แล้วอ.อรุณได้แนะนำอะไรบ้างมั้ยคะ ของเราถามว่าห้ามกินอะไรมั้ย ท่านบอกว่าใช้ชิวิตปกติเลยอยากกินอะไรก็กิน ล่าสุดวันเสาไปตรวจรอบ1 สัปดาหฺ์แรก ท่านบอกว่าแผลเรียบร้อยดีไม่อักเสปกลับบเานได้ พอถามว่าถ้าออกกำลังกาย ปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำได้มั้ย ท่านก็บอกว่าได้ ถ้าไม่เจ็บ (รู้สึกชิวมากกับการผ่าฝีื คงผ่ามาเยอะมากปล้วจริงๆ) แต่คนไข้อย่างเราแอบกังวลเล็กๆ..ทำตามท่านว่ามาตลอดล้างแค่น่ำเปล่าซับให้แห้ง ไม่มียากินตั้งแต่ผ่าวันแรก ไม่เคยแช่ก้นน้ำอุ่นเพราะอ.อรุณบอกไม่ต้องแช่ แผลดีขึ้นเรื่อยๆคะ ..เราทำถูกต้องใช่ป่าวคะ แล้วแต่ละคนผ่าแบบ Lift ป่าวคะ ของเราเย็บแผลไว้ หารอยแผลไม่เจอเลยเล็กมาก (ไม่ต้องตัดไหมด้วย) แล้วก็หูรูดปกติเลยคะตั้งแต่วันแรก ปวดอึนิดๆแต่ไม่กล้าเบ่งเลยกินผักผลไม้เยอะๆให้ถ่ายวันถัดไปแทนแบบไม่ต้องเบ่ง
      อ.อรุณนัดอีกทีเดือนหน้าคะ 15 มีนา หวังว่าจะหายสนิทนะ ><

      ตอนนี้ยังดีขายของออนไลน์อยู่เลยไม่ต้องนั่งออฟฟิตวันละ8 ชม. ท่านอื่นทำไงกันคะ

      ((แอดไลนคุยเลยมั้ยสามคน ตั้งชื่อกรุ้ปฝีคัณฑสูตร 55))

      ลบ
    2. ใช้ทิชชู่ซับน้ำมันหนาๆรองกางเกงในไว้ก็ได้ครับ ให้เวลานั่งแผลจะได้ไม่ติดกางเกงใน แล้วซับหนองให้แห้งไปด้วยในตัวครับ

      ลบ
  32. ผมแนะนำว่า 1 สัปดาห์แรกถนอมก้นไว้ก่อนครับ ของผมไม่ออกไปไหนเลย กินกับนอนอย่างเดียว แล้วก็กินอาหารแบบอ่อนๆ ทุกมื้อ (ผักบางชนิดก็เหนียวครับย่อยยาก ใช่ว่าจะดีต้องเลือกกิน) แล้วก็กินไม่เยอะ แค่พออิ่ม (น้ำหนักผมลดไป 7 โล) อาหารที่สุ่มเสี่ยงเลี่ยงหมดครับ (แม้คุณหมอจะบอกว่าใช้ชีวิตปกติก็ตาม) พวกของดองต้องงด (แม้แต่น้ำส้มสายชูผมยังไม่ปรุงก๋วยเตี๋ยวเลย) อาหารที่น่าจะทำให้อึลำบาก เช่น ข้าวเหนียว หรือ พวกถั่วแข็งๆ พวกของเผ็ดยิ่งต้องห้าม เพราะเคยลองแล้วแสบครับบอกได้ครับเดียว 555 สุดท้ายห้ามเด็ดขาดคือ แอลกอฮอลล์ครับ เพราะผมเคยสอบถามคนที่ผ่ากับ ดร.อรุณ แต่ว่าเขาเต็มที่กับชีวิตไปหน่อย คือ ออกจาก รพ. เขาก็เที่ยวดื่มในคืนนั้นเลย (ก็คุณหมอบอกใช้ชีวิตปกติ เขาคงจัดเต็ม นี่แหล่ะที่ผมรู้สึกว่าคุณหมอน่าจะแนะนำอะไรสักหน่อยนอกจากบอกว่า ใช้ชีวิตปกติ เพราะปกติของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน) ผลของการที่คนๆ นั้นดื่มในวันนั้นทำให้อีกสองอาทิตย์ต่อมา แผลเขาเกิดอักเสบครับ อาการหนักเลยเขาเดินแทบไม่ได้เพราะเจ็บสุดๆ และต้องเข้า โรงพยาบาลรักษาการติดเชื้อนี้ 12 วัน อันนี้ผมคุยกับเขาโดยตรงทางโทรศัพท์ ผมมาคิดดูว่าน่าจะมีผล เพราะแอลกอฮอลล์มันเข้ากระแสเลือด แล้วแผลยังไม่แห้งดีมีเลือดออกยังไงก็เกี่ยวนะผมว่า งดไว้ก่อนครับดีกว่า ที่เหลือก็เป็นอาหารที่อาจจะทำให้เกิดการท้องเสียงดไว้ก็ดี (ผมเคยเกือบท้องเสียช่วงประมาณเข้าเดือนแรก ทรมานก้นเหมือนกัน กลัวเป็นซ้ำเพราะติดเชื้อโรค) แต่ก็รอดมาได้

    อีกประเด็นคือ ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ผมไปเดินห้าง รู้สึกได้ว่า ถ้าเดินเยอะเกินไป มีเลอะครับ ไม่แน่ใจว่า เลือด น้ำเหลือง หรือ อะไร (แต่ไปทำงานได้ปกติคือช่วงสัปดาห์ที่สอง แต่ก็ยังหน่วงๆ ก้น และเดินได้ช้า ถ้าเอาชัวร์และลาพักได้นะครับ ผมว่าประมาณ 10-14 วัน น่าจะเริ่มเดินนั่งได้ค่อนข้างปกติครับ คือตลอด 1 เดือนที่ผมเลี่ยงทำกิจกรรมหนักๆ ผมค่อนข้างปกติ แต่วันไหนซ่าไปเดินเล่น เดินห้าง วันนั้นแหล่ะครับ เลอะครับ เลือดซึม

    ส่วนวีธีการดูแลแผลนะครับ แต่เดิมคุณหมอไม่ได้แนะนำเรื่องการเอาก้นแช่น้ำอุ่น ผมก็ไม่ได้ทำในช่วงแรก (ขอเล่ารายละเอียดนะครับอย่าเพิ่งแหวะนะครับ มันเป็นเรื่องทำความสะอาดที่น่าจะมีประโยชน์) เวลาขับถ่ายเสร็จ ก็เอาที่ฉีดก้นฉีดนานหน่อย แต่ระวังไม่ให้มันแรงเกิน ถ้ารู้สึกแรงต้องเอามือมากั้นไว้ครับ ทำมือป้อมๆ โดยเอามือนั้นเอี้ยวมาจากด้านหลังครับ กันไว้ไม่ให้มันโดนโดยตรง ค่อยๆ ล้างไปเรื่อยๆ ตบๆ น้ำเอา ให้น้ำไหลผ่านพอสมควร แล้วก็ใช้สบู่เหลวของเด็กครับเพราะมันจะอ่อนโยนกับผิวใช้ทำความสะอาดได้ แรกๆ ผมไม่กล้าทำความสะอาดไปที่จุดที่รู้สึกเจ็บแผลโดยตรง ก็ใช้วิธีถูอ้อมๆ แผลครับ แล้วค่อยฉีดให้ฟองผ่านก้นเอา หลังจากล้างเสร็จแล้ว เช็ดให้แห้ง โดยการเช็ดครั้งแรกผมเช็ดแค่แก้มก้นครับ ไม่ลงรายละเอียด 55 เพราะจุดยุทธศาสตร์ถ้าโดนผ้าขนหนูเดียวจะไป scrash ตรงนั้นเข้า 555 ผมก็จะมีวิธีสเตปต่อมาคือใช้ทิชชูอย่างหนาครับที่เป็นแผ่นใหญ่ MAXMO พับครึ่ง แล้วก็ซับเอาครับ ซับแล้วดู ไม่น่าเชื่อครับขนาดเราล้างน้ำสบู่อย่างนาน มันก็ยังมีเลอะครับ จริงๆ นะครับลองดูได้เลย ผมเลยใช้ทิชชู่หนาซับแล้วพับครึ่งทบไปเรื่อยๆ เช็ดจนกว่าจะไม่มีคราบติดมาที่กระดาษ ผมทำอยู่อย่างนี้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ ถึงได้ทราบว่าไม่มีเลือดแล้ว เพราะว่าดูทุกวัน แต่เช็ดแบบนี้ดีครับคือมันไม่อับชื้นมาก แล้วก็ใช้วีธีซับ ดีกว่าเอาผ้ามาเช็ด เพราะผ้าพอเช็ดมันก็ไปเลอะผ้า ต้องมาคอยซักลำบากแย่ แต่กระดาษมันใช้แล้วทิ้งเลยสะดวกกว่า แล้วใช้ผ้าเดี๋ยวโดนแผลโดยตรงมันไม่ดีใช้วิธีกดกระดาษซับ ซับ ซับ ไปเรื่อยๆ ครับ (กระดาษมันหนาจะไม่มีขุยติดน้ำยุ่ยเลอะก้นครับ) จนรู้สึกแห้งสบายตัว ไม่มีอะไรติดกระดาษมาถือว่าใช้ได้แล้วครับ แล้วก็ใส่ กกน. ติดผ้าอนามัย แนะนำให้ใช้แบบแผ่นไม่ใหญ่จนเกินไป ตอนนี้ผมบอกตรงๆ ผมเริ่มติดใจผ้าอนามัย 555 เพราะมันรู้สึกว่าสะอาดปลอดภัยมาก 555

    ตอบลบ
  33. ผมแนะนำว่า 1 สัปดาห์แรกถนอมก้นไว้ก่อนครับ ของผมไม่ออกไปไหนเลย กินกับนอนอย่างเดียว แล้วก็กินอาหารแบบอ่อนๆ ทุกมื้อ (ผักบางชนิดก็เหนียวครับย่อยยาก ใช่ว่าจะดีต้องเลือกกิน) แล้วก็กินไม่เยอะ แค่พออิ่ม (น้ำหนักผมลดไป 7 โล) อาหารที่สุ่มเสี่ยงเลี่ยงหมดครับ (แม้คุณหมอจะบอกว่าใช้ชีวิตปกติก็ตาม) พวกของดองต้องงด (แม้แต่น้ำส้มสายชูผมยังไม่ปรุงก๋วยเตี๋ยวเลย) อาหารที่น่าจะทำให้อึลำบาก เช่น ข้าวเหนียว หรือ พวกถั่วแข็งๆ พวกของเผ็ดยิ่งต้องห้าม เพราะเคยลองแล้วแสบครับบอกได้ครับเดียว 555 สุดท้ายห้ามเด็ดขาดคือ แอลกอฮอลล์ครับ เพราะผมเคยสอบถามคนที่ผ่ากับ ดร.อรุณ แต่ว่าเขาเต็มที่กับชีวิตไปหน่อย คือ ออกจาก รพ. เขาก็เที่ยวดื่มในคืนนั้นเลย (ก็คุณหมอบอกใช้ชีวิตปกติ เขาคงจัดเต็ม นี่แหล่ะที่ผมรู้สึกว่าคุณหมอน่าจะแนะนำอะไรสักหน่อยนอกจากบอกว่า ใช้ชีวิตปกติ เพราะปกติของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน) ผลของการที่คนๆ นั้นดื่มในวันนั้นทำให้อีกสองอาทิตย์ต่อมา แผลเขาเกิดอักเสบครับ อาการหนักเลยเขาเดินแทบไม่ได้เพราะเจ็บสุดๆ และต้องเข้า โรงพยาบาลรักษาการติดเชื้อนี้ 12 วัน อันนี้ผมคุยกับเขาโดยตรงทางโทรศัพท์ ผมมาคิดดูว่าน่าจะมีผล เพราะแอลกอฮอลล์มันเข้ากระแสเลือด แล้วแผลยังไม่แห้งดีมีเลือดออกยังไงก็เกี่ยวนะผมว่า งดไว้ก่อนครับดีกว่า ที่เหลือก็เป็นอาหารที่อาจจะทำให้เกิดการท้องเสียงดไว้ก็ดี (ผมเคยเกือบท้องเสียช่วงประมาณเข้าเดือนแรก ทรมานก้นเหมือนกัน กลัวเป็นซ้ำเพราะติดเชื้อโรค) แต่ก็รอดมาได้

    อีกประเด็นคือ ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ผมไปเดินห้าง รู้สึกได้ว่า ถ้าเดินเยอะเกินไป มีเลอะครับ ไม่แน่ใจว่า เลือด น้ำเหลือง หรือ อะไร (แต่ไปทำงานได้ปกติคือช่วงสัปดาห์ที่สอง แต่ก็ยังหน่วงๆ ก้น และเดินได้ช้า ถ้าเอาชัวร์และลาพักได้นะครับ ผมว่าประมาณ 10-14 วัน น่าจะเริ่มเดินนั่งได้ค่อนข้างปกติครับ คือตลอด 1 เดือนที่ผมเลี่ยงทำกิจกรรมหนักๆ ผมค่อนข้างปกติ แต่วันไหนซ่าไปเดินเล่น เดินห้าง วันนั้นแหล่ะครับ เลอะครับ เลือดซึม

    ตอบลบ
  34. ส่วนวีธีการดูแลแผลนะครับ แต่เดิมคุณหมอไม่ได้แนะนำเรื่องการเอาก้นแช่น้ำอุ่น ผมก็ไม่ได้ทำในช่วงแรก (ขอเล่ารายละเอียดนะครับอย่าเพิ่งแหวะนะครับ มันเป็นเรื่องทำความสะอาดที่น่าจะมีประโยชน์) เวลาขับถ่ายเสร็จ ก็เอาที่ฉีดก้นฉีดนานหน่อย แต่ระวังไม่ให้มันแรงเกิน ถ้ารู้สึกแรงต้องเอามือมากั้นไว้ครับ ทำมือป้อมๆ โดยเอามือนั้นเอี้ยวมาจากด้านหลังครับ กันไว้ไม่ให้มันโดนโดยตรง ค่อยๆ ล้างไปเรื่อยๆ ตบๆ น้ำเอา ให้น้ำไหลผ่านพอสมควร แล้วก็ใช้สบู่เหลวของเด็กครับเพราะมันจะอ่อนโยนกับผิวใช้ทำความสะอาดได้ แรกๆ ผมไม่กล้าทำความสะอาดไปที่จุดที่รู้สึกเจ็บแผลโดยตรง ก็ใช้วิธีถูอ้อมๆ แผลครับ แล้วค่อยฉีดให้ฟองผ่านก้นเอา หลังจากล้างเสร็จแล้ว เช็ดให้แห้ง โดยการเช็ดครั้งแรกผมเช็ดแค่แก้มก้นครับ ไม่ลงรายละเอียด 55 เพราะจุดยุทธศาสตร์ถ้าโดนผ้าขนหนูเดียวจะไป scrash ตรงนั้นเข้า 555 ผมก็จะมีวิธีสเตปต่อมาคือใช้ทิชชูอย่างหนาครับที่เป็นแผ่นใหญ่ MAXMO พับครึ่ง แล้วก็ซับเอาครับ ซับแล้วดู ไม่น่าเชื่อครับขนาดเราล้างน้ำสบู่อย่างนาน มันก็ยังมีเลอะครับ จริงๆ นะครับลองดูได้เลย ผมเลยใช้ทิชชู่หนาซับแล้วพับครึ่งทบไปเรื่อยๆ เช็ดจนกว่าจะไม่มีคราบติดมาที่กระดาษ ผมทำอยู่อย่างนี้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ ถึงได้ทราบว่าไม่มีเลือดแล้ว เพราะว่าดูทุกวัน แต่เช็ดแบบนี้ดีครับคือมันไม่อับชื้นมาก แล้วก็ใช้วีธีซับ ดีกว่าเอาผ้ามาเช็ด เพราะผ้าพอเช็ดมันก็ไปเลอะผ้า ต้องมาคอยซักลำบากแย่ แต่กระดาษมันใช้แล้วทิ้งเลยสะดวกกว่า แล้วใช้ผ้าเดี๋ยวโดนแผลโดยตรงมันไม่ดีใช้วิธีกดกระดาษซับ ซับ ซับ ไปเรื่อยๆ ครับ (กระดาษมันหนาจะไม่มีขุยติดน้ำยุ่ยเลอะก้นครับ) จนรู้สึกแห้งสบายตัว ไม่มีอะไรติดกระดาษมาถือว่าใช้ได้แล้วครับ แล้วก็ใส่ กกน. ติดผ้าอนามัย แนะนำให้ใช้แบบแผ่นไม่ใหญ่จนเกินไป ตอนนี้ผมบอกตรงๆ ผมเริ่มติดใจผ้าอนามัย 555 เพราะมันรู้สึกว่าสะอาดปลอดภัยมาก 555

    ผ่นไปประมาณ 2 อาทิตย์ เริ่มรำคาญเพราะหายช้ามากครับ ช้าจนน่าเบื่อ เลยคิดว่า งั้นก็ลองแช่น้ำอุ่นดูก็แล้วกัน ก็เลยกลายเป็นว่า ทุกวัน อาบน้ำ ขับถ่าย ล้างให้สะอาด แล้วค่อยแช่น้ำอุ่น ผมซื้อกะละมังแช่ก้นมาจากร้านขายอุปกรณ์การแพทย์ แต่ผมสั่งในเน็ต เป็นร้านแถวๆ ศิริราช เพราะแถวบ้านผมมันหายาก กะละมังแช่ก้น วางสวมกับส้วมปกติ แล้วเทน้ำอุ่นลงไป แล้วเราก็นั่งเหมือนนั่งอึปกติเลยครับ แช่วันละครั้ง ประมาณ 10-20 นาที เท่าที่แช่มาหลายอาทิตย์ ผมรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ทำให้หายเร็วมากนัก แต่รู้สึกว่า สบายแผลดี ลดบวมได้นิดหน่อย แล้วก็ทำให้รู้สึกว่ามันสะอาด เพราะบางทีที่วันไหนเดินเยอะ แล้วเลอะก้นมากๆ จะกังวลเรื่องการติดเชื้อ ก็จะแช่น้ำอุ่น บางครั้งผมจะหยดเบตาดีนลงไปสัก 1-2 หยดด้วยครับ ฆ่าเชื้อ (อันนี้ญาติๆ ที่เป็นพยาบาลแนะนำมา) ซึ่งผมว่าก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลยทำในวันที่เราไม่สบายใจว่าแผลมันจะสกปรกหรือเปล่า ส่วนหมอนโดนัทนั้นผมก็ซื้อมาครับ แต่ไม่ค่อยได้ใช้เพราะรู้สึกว่า นั่งลำบากครับ ก็เลยนั่งปกติ แต่ต้องไม่นั่งนาน นั่งแล้วเอียงๆ เอาบ้าง หรือคอยเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ เช่นไปนอนคว่ำบ้าง เป็นเดิน ยืน สลับๆ กันบ้าง

    ตลอด 1 เดือนกับอีก 2 สัปดาห์ แผลดีขึ้นมาก เลือดไม่ไหล น้ำเหลืองไม่ไหลแล้ว เดิน นั่ง ไม่มีความรู้สึกโหวงๆ หน่วงๆ ก้นแล้ว เดินได้เร็วเป็นปกติ ตอนนั่งไม่ต้องค่อยๆ นั่งเหมือนช่วงแรกๆ มีแค่อาการเดียวตอนนี้คือ ตอนอึทำไมรู้สึกว่ามันจี๊ดอยู่จุดนึง (แต่ไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหว แต่ก็เป็นเฉพาะตอนอึ แล้วก็บางครั้งมีอาการคัน) พรุ่งนี้ผมเป็นวันที่คุณหมอนัดดูแผลพอดี แล้วจะมารายงานครับ

    ตอบลบ
  35. สวัสดีค่ะ...ทุกท่าน
    ดิฉันอยากทราบข้อมูลการปฏิบัติตัวและอาการหลังผ่าตัดน่ะค่ะ พอดีเพิ่งผ่าตัดมาได้ 3 วันเองค่ะ ที่ รพ.สายไหม ตอนนี้กลับมาพักฟื้นที่บ้านอยู่ว่างๆ เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมเพราะช่วงนี้แสบแผลมากค่ะ เลยสงสัยว่ามาจากการแช่น้ำรึเปล่า

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. การแช่น้ำหรือไม่แช่ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของคุณหมอครับ
      ในส่วนของผมคุณหมอไม่ได้ให้แช่ เพราะต้องการให้หนองที่ไหลออกมาช่วยลดความเจ็บปวดลงได้ครับ เพราะเส้นประสาทที่เสียหายจะแช่อยู่ในหนองทำให้ลดความเจ็บลงไปได้ แต่ก็ต้องคอยซับหนองที่ไหลออกมา ไม่ให้เลอะเทอะ

      ส่วนการแช่น้ำต้องผสมเบตาดีนลงไป 1 ฝา จะช่วยให้อาการแสบน้อยลง แต่ต้องแลกมาด้วยการหายที่ช้าลง เพราะเบตาดีนและน้ำจะเข้าไปขัดขวางกระบวนการหายของแผลครับ

      อาการเจ็บหนักๆจะอยู่ไม่เกิน 1 สัปดาห์ครับ เพราะเนื้อเยื้อที่ถูกทำลายจะมีสารตัวหนึ่งที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อกระตุ้นการผลิตเนื้อเยื้อใหม่ และมีสารฆ่าเชื้อจากร่างกายเรามาด้วย

      หลังจากนั้นเราจะเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเนื้อเยื่อเริ่มสร้างออกมา เนื้อแดงๆจะเปลี่ยนเป็นขาวๆ (กรณีของผมไม่ได้แช่นะครับ ถ้าแช่น้ำอาจจะแดงอยู่) จากนั้นเนื้อเยื่อจะค่อยๆเติมเต็มขึ้นมาเรื่อยๆครับ

      ลบ

  36. ผมผ่ามาสองรอบแล้ว มีคนแนะนำว่าให้ไปผ่าที่ รพ.จุฬา

    คุณหมีพู มีคำแนะนำไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แสดงว่าต่อมผลิตเมือกอาจจะอุดตัดง่ายครับ บางคนผ่า 8-9 ครั้งก็มี ผ่ากันจนหมดต่อมหมด (ปรกติคนเราจะมีต่อมเมือก 6 - 9 ต่อม รอบๆรูทวารด้านใน)

      ที่ รพ.จุฬา ก็ดีนะครับ แต่รอคิวนานหน่อยค่อยๆใจเย็นๆอดทนครับ ถ้าเป็นไปได้ระบุคุณหมอที่จะเข้าพบได้เลยครับ เป็น อ.อรุณ หรือ อ.ชูชีพ ก็ได้ครับ
      ถ้าไม่ระบุคุณอาจจะได้รับการรักษาจากนักศึกษาแพทย์ แต่ถ้าเคสหนักจริงๆเขาจะส่งให้ อาจารย์หมออยู่แล้วครับ

      ขอให้โชคดีในการรักษาและขอให้ครั้งนี้ผ่าเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ ;-)

      ลบ
    2. ปรกติ อ.อรุณ จะเข้าอังคารและพฤ.เช้า 8-12 น.ลองเข้าเว็บนี้ได้นะครับ
      http://www.chula.osaly.com/php/TimeTable.php?search_clinic=598&search_docname=%CD%C3%D8%B3&search_docsurname=&Submit=Submit

      ลบ
    3. ขอบคุณครับ

      รบกวนอีกนิดครับไม่ทราบว่า อ.อรุณเข้าที่ รพ.บำรุงราษฏร์ช่วงไหน

      สอบถามไว้เป็นทางเลือกครับ

      ลบ

    4. Mon 13:00 - 15:00
      Tue 13:00 - 15:00
      Thu 17:00 - 19:00
      Fri 13:00 - 15:00
      Sat 13:00 - 16:00

      ลบ
  37. ดูตารางเวลาคุณหมออรุณได้ที่นี่ค่า เราผ่ามาที่บำรุงราษฎร์คะ เขียนบล้อกไว้แบ่งปันประสบการณ์คะ ได้ข้อมูลจากคุณหมีพูนี่ล่ะ ^o^ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=gukgif&month=10-02-2014&group=1&gblog=1

    ตอบลบ
  38. ขอแชร์ประสบการณ์การผ่าตัดของพี่ ให้กลุ่มเพื่อนหน่อยนะครับ เพราะผมก็พึ่งผ่ามาเหมือนกันครับ อธิบายได้ชัดแจนมากเลยครับ.

    ตอบลบ
  39. ผมก็เพิ่งผ่ามาครับ นอนโรงพยาบาล2คืนหมอบอกกลับบ้านได้ครับ แล้วให้เอาก้นไปแช่น้ำที่บ้านครั

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอให้โชคดี หายไม่กลับมาเป็นอีกนะครับ

      ลบ
  40. คืออยากถามว่า โรคนี้มีโอกาศกลายเป็นมะเร็งรึป่าวคะ พ่อผ่ามา 5 ครั้งแล้วยังไม่หาย หมอบอกจะย้ายลำไส้มาไว้หน้าท้องเพื่อรักษาแผลที่ก้นค่ะ กังวนมาก มันจะหายใช่มั้ยคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไปรักษากับคุณหมออะไร ที่ไหนมารึครับ

      ลบ
    2. อยู่ จ.บุรีรัมย์อะค่ะ รพ นางรอง อาจารย์หมอเป็นเจ้าของเคส ตอนนี้นอนให่ยาฆ่าเชื้ออยู่เพราะคนไข้ปฏิเสธการรักษา 55 แต่หมอไม่ว่าอะไร ให้แช่น้ำร้อนเช้าเย็นไปก่อนค่ะ

      ลบ
    3. ปรกติโรคนี้ไม่ถึงต้องย้ายลำไส้นะครับ ย้ายลำไส้ส่วนใหญ่คือการรักษามะเร็ง พอรักษาเสร็จก็ย้ายกลับมาที่ก้นดังเดิม แต่อาจจะเป็นเทคนิคของหมอต้องลองสอบถามรายละเอียดหมอดูครับ

      ลบ
  41. ผมผ่าโรงพยาบาลสมุทรสาครครับ หมอทำเหมือนในรูปข้างบนรูปสุดท้ายอะครับ หมอนัด28ครับเดียวจะมาเล่าให้ครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอให้หายเร็วๆนะครับ แล้วมาแชร์ประสบการณ์กัน

      ลบ
  42. ผมก็เพิ่งผ่ากับอ.อรุณ ที่บำรุงราษ มาเมื่อวันที่29 มี.ค นี่เองคับ ผ่าแบบบล็อคหลังคับ ใครเป็นอยู่ก็รีบรักษาน่ะคับ ผมก็อ่านจากกระทู้นี้ไป เลยเลือกจะผ่ากับอ.อรุณ คับ ของผมคงเป็นไม่มากใช้เวลาผ่าไม่นาน หลังผ่าเจ็บไม่มากคับ วันเดียวหายปวดแล้ว ปวดแค่คืนหลังผ่าตัดกลับบ้านมาก็หายปวดและคับ สู้ๆน่ะคับทุกท่าน เคสผมยอดค่ารักษาหมดไป 76,000 คับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอให้หายเร็วๆนะครับ ราคานี้คงเป็นห้องเดี่ยวพิเศษใช่ไหมครับ

      ลบ
    2. ขอให้หายเร็วๆนะครับ ราคานี้คงเป็นห้องเดี่ยวพิเศษใช่ไหมครับ

      ลบ
    3. ห้องเดี่ยวแบบถูกสุดอ่ะคับ

      ลบ
  43. น่าจะราคานี้เพราะว่ามีบล็อคหลังด้วยครับ ค่าบล็อคหลังกับค่าวิสัญญีแพทย์

    ตอบลบ
  44. ตอนนี้ผมยังรู้สึกว่ามีอาการคันเป็นช่วงๆ อยู่เลยครับ กลัวมากว่าจะเป็นซ้ำ ทำไมยังคันไม่หายงงจริงๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ลองนัดคุณหมอเช็คดูอีกทีก็ดีนะครับ เผื่อแผลยังไม่ค่อยหายสนิท

      ลบ
  45. สดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ
    เมื่อสักครู่อึออกมาก้อนแรกมีเลือดปนมาด้วย
    ละก้มีเลือดหยดตามมาอ่ะค่ะ สดๆ เลยค่ะ
    (ตอนแรกคิดว่าปจด. เพราะมีประจำเดือนอยุ)
    แต่พอนึกๆ ดูปจด.ไม่น่าจะเปนน้ำหยดแบบนี้มันจะข้นๆ เหนียวๆ นิดนึง
    แต่พอหลังจากก้อนแรกก้ไม่มีเลือดออกมาอีกเลยค่ะ...
    ตอนนี้ก้ไม่ได้เจ็บไม่ได้อะไรเลยนะคะ
    รุสึกเฉยๆ เหมือนไม่ได้เปนอะไร

    เลยไม่รุว่านู๋เปนอะไร ?? :(
    อ้อ..ลืมบอกค่ะ ตอนที่ก่อนอึจะออกมามันก้รุสึกเจ็บมาก
    มากจนเหมือนมีอะไรบาดละเลือดก้ออก
    *ไม่กล้าไปหาคุนหมอเลยค่ะอาย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าเป็นเลือดลองหาหมอก่อนมั้ยครับ บางทีอาจจะเป็นริดสีดวงหรือเปล่าครับ เพราะปกติถ้าเป็นฝีคัณฑสูตร น่าจะเป็นหนองไหลมากกว่าเป็นเลือดนะครับ อีกอย่างลักษณะการอึออกมาแล้วมีเลือดปน บางทีเป็นที่ลำไส้ครับ อาจจะลำไส้อักเสบ ผนังลำไส้เป็นแผลอะไรทำนองนี้ครับ เพราะถ้าเป็นฝีคัณฑสูตรจะมีลักษณะปวดที่ขอบรูทวาร คลำดูอาจมีลักษณะบวมๆ กดแล้วเจ็บคล้ายๆ เวลาเรากดสิว พอหนองข้างในสุกจะรู้สึกได้ว่ามีน้ำหนองไหลออกมาเลอะๆ นะครับ

      ลบ
  46. ผมพึ่งไปผ่ามา ที่ รพ เกษมราษฏ์บางแค หลังผ่าเห็นแผลแล้วกลัวเลย กว้าง และลึกมาก...คุณหมอบอกให้แช่ก้นและ เป่าให้แห้ง และเอาผ้าก๊อตอุดรูไว้กันแผลปิดก่อน...ผ่านมาแล้ว6วัน ยังมีหนองและเลือดซึมๆอยู่ ...อยากกลับไปใช้ชีวิตปกติจังครับ สาธุขอให้หายไวๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าผ่าแบบทั่วไปก็งี้ล่ะครับ ถ้าไปหาคุณหมออรุณจะไม่ใช่แบบนี้ครับ

      ลบ
    2. ใช่ค่ะ ผ่ากับอ.อรุณมา แผลเล็กมากหาแทบไม่เจอ

      ลบ
  47. พึ่ง6วัน ใจเย็นๆครับ เนื้อมันมาเต็มแน่นอน ถ้าอยากเนื้อเต็มไวกินโปรตีน ไข่ หรือ เวย์ จะช่วยได้ครับ
    ขอฝห้หายเร็วๆนะครับ

    ตอบลบ
  48. นู๋กลัว ไม่กล้าไปหาหมอกลัวต้องผ่าเจ็บ อาการของหนูเจ็บได้สองวันแรก จึงส่องกระจกดูพบว่ามีก้อนนูนๆๆออกมาประมาน1เซน ติดกับรูดอึเลยค่ะ เวลานั่งมันเจ็บมาก

    ตอบลบ
  49. ถ้าเป็นก้อนนูนๆ แล้วออกมาจากหูรูด ซึ่งก้อนนั้นยังไม่แตกออกมาเป็นหนอง อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นว่าเป็นริดสีดวงครับ แต่ถ้าเป็นฝีล่ะก็ผมว่าผ่าตัดเจ็บทีเดียวคุ้มกว่ามาเจ็บทรมานทุกวันนะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุนมากน่ะค่ะพรุ่งนี้จะไป รพ ค่ะ

      ลบ
  50. เวลาผ่านไปเกือบครึ่งปี หลังจากผ่าเรียบร้อยแล้ว บางครั้งก็มีอาการคัน (แต่นานๆ ที) แต่ล่าสุดรู้สึกจะมีถ่ายเป็นเลือด นิดหน่อย เป็นๆ หายๆ ไม่รู้ว่าเป็นอย่างอื่น หรือเกี่ยวกับแผลที่ยังไม่หายสนิท เพราะเห็นว่าบางคนก็แผลหายช้ามาก เพราะอยู่ด้านใน แต่โดยรวมถือว่าดีมาก และย้ำอีกครั้งสำหรับคนเพิ่งเป็น แนะนำให้ผ่าดีที่สุดครับ อย่าทรมานเลยมันไม่ยุบหายเองและไม่มีทางเลือกอื่นครับ ตรวจแต่เนิ่นๆ ผ่าตอนที่มันยังเล็กๆ ก็ยิ่งดี

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อาจะเพราะแผลข้างในเลยหายช้าหน่อย ขอให้เป็นปรกติไวๆนะครับ ตอนนี้ผ่านไปเกือบปีผมหายอาการคันแล้วครับเป็นปรกติทุกอย่างแล้วครับเนื้อเต็มมองไม่เห็นแผลแล้ว หูรูดอยู่ปรกติทุกอย่างครับ

      ลบ
  51. ผมผ่ามาได้ประมาณ 7-8 วัน ขับถ่ายปกติไม่ปวด แต่วันที่ 7-8 นี่ตื่นมามันปวดหน่วงๆแผลครับ แล้วเวลาถ่ายก็ปวด แต่ก็ไม่ถึงขนาดร้าวรานมาก ปวดตึบๆ หลังถ่าย และก็ทุเลาลงสายๆ
    อีกเรื่องครับ สีของของเหลวที่ไหลออกมา วันหลังๆนี่สีเข้มขึ้นครับ วันแรกๆมันแดงเลือด วันหลังๆมันออกสีเข้มๆสีน้ำตาล (ผมดูจากผ้าอนามัยตอนเปลี่ยนน่ะครับ) ปกติไหม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรื่องแผลแค่อาทิตย์เดียวอาการดีขึ้นขนาดนี้ถือว่าสุดยอดแล้วครับ ขอผมกว่าจะขับถ่ายหายปวดเป็นเดือนๆ ส่วนเลือดที่ออกมาสีเข้มๆน้ำตาลน่าจะเกิดจากเลือดมันค้างอยู่ในลำไส้จะเริ่มสีเข้มขึ้นจนกว่าจะถูกถ่ายออกมาผมคิดว่าปรกตินะครับ นอกจากว่าผ่านไปหลายสัปดาห์แล้วยังมีเลือดสีเข้มอยู่ก็ควรไปให้หมอตรวจครับ อาจจะเกิดแผลฉีกขาดได้

      ลบ
  52. พอโพสต์คุยกับคุณ ก็มาเขียนใหม่เลย เมื่อ สองวันก่อน และตั้งแต่ผ่าตัดมา เจ็บตอนถ่ายครั้งแรก แต่มา ช่วงนี้ พอถ่ายเสร็จจะแสบๆ ปวดตึงๆ หน่วงๆ ทั้งที่ก่อนนี้ไม่เป็น ของเผ็ดก็ไม่ได้กิน และระหว่างวัน มันก็ปวดๆ ตึงๆ แต่ก็ไม่ขนาดปวดตอนเป็นฝี บางช่วงอาการจะหายไป คุณหมีพู เป็นแบบนี้บ้างไหม มันปวดเป็นปกติ เพราะเป็นแผลผ่าตัดใช่ไหม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ของผมจะปวดตึบๆ บอกไม่ถูกอ่ะครับ น่าจะเพราะแผลผ่าตัดนะครับ

      ลบ
  53. ตอนนี้ผ่านมาได้ 8 วัน ผมใจร้อนไปไหมที่จะให้มันหายปวด 55

    ตอบลบ
  54. ยิ่งมานั่งหมอนโดนัท เหมือนแผลมันถูกดึงให้กว้างออกไปอีก จริงๆหมอนโดนัท น่าจะใช้ตอนแผลหาย ... อย่าลืมแลกเปลี่ยนกันนะครับ คุณหมีพู ว่า ผมผ่ามาได้ 8 วัน เวลาถ่ายยังปวดๆ แสบๆ และระหว่างวันตึงๆ ปวดหน่วงๆที่แผล คุณเป็นไหมครับ ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  55. ผ่ามาได้สองวันแล้วคับ...ที่ รพ.นนทเวช คับ .
    นอน รพ.1คืน แล้วใช้วิธีไปล้างแผลที่ รพ. ทุกเช้าเอาคับ
    ขับถ่าย มีเจ็บนิดๆคับ ใช้ห่วงยางสำหรับนั่ง ช่วยได้เยอะจิงๆคับ
    คุณหมอแนะนำให้แช่น้ำ แต่พออ่านคอมเม้นจากพี่ๆในบล็อค ตัดสินใจ ไม่แช่ดีกว่า อิอิ
    คุณหมอให้ทานปกติคับ แต่ยังไม่กล้ากินหนัก ขออาหารเบาๆไปก่อนคับ
    กังวลใจอยู่ไม่กี่เรื่องคับ รบกวนพี่ๆแนะนำหน่อยคับ
    1.เวลาถ่ายอุจาระเสร็จผมใช้สายฉีดได้ปกติ ใช่มั๊ยคับ
    2.คุณหมอบอกว่าโอกาสกลับมาเป็นอีกก็มี แต่ผมไม่อยากแล้วคับ ทรมาน (T T) ทำไงดีคับ
    3.ผมเป็นคนทานเหล้าบ้าง แต่ก็ไม่เยอะ จะมีผลมั๊ยคับ
    4.ผมติดกาแฟคับ กาแฟดำเลยนี่แหละ มีผลมั๊ยคับ
    รบกวนพี่ๆแนะนำด้วยคับ ขอบคุณคับ (-/\-)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตอบเท่าที่ผมตอบได้นะครับ รอท่านอื่นมาเพิ่มเติม
      1) ใช้สายฉีดได้ครับ แต่อย่าเปิดแรงจะทำให้เจ็บระบมที่แผลครับ
      2) เท่าที่ทราบ โรคนี้เป็นโรคฟลุกครับเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ ซ้ำได้หลายหน บางคนเป็นซ้ำ 8-9 ครั้งก็มี
      3) เท่าที่ทราบป้องกันอะไรมากไม่ได้ครับ การกินไม่มีผล จะมีเรื่องระวังอย่าอั้นอุจาระและอย่าให้อุจาระแข็งบ่อยๆ แต่ก็แล้วแต่ดวงบางคนก็เป็นบางคนก็ไม่เป็น
      4) ตามจ้ข้อ3 ไม่มีผลครับ

      ลบ
    2. ขอบคุณมากค๊าบบบบบบบบ
      ตอนนี้อัดแต่ไข่ไก่กับปลาสลิดคับ อยากให้แผลสมานเร็วๆ

      ลบ
    3. สายฉีดแรงครับ แต่ผมจะเอาอีกมือประกบทำมือป้อมๆ ไว้ครับ 555 ให้น้ำวิ่งผ่านนานที่สุด ผมจะเล่าให้ฟังว่ามันอาจฟังดูอี๋ไปนิด แต่เกิดจากผมอยากให้แผลมันสะอาดที่สุด ผมเลยล้างน้ำนานๆ ครับ ตามที่บอกข้างบน ขนาดคิดว่าสะอาดแล้ว ผมเอากล้องถ่ายเลยครับหลังจากเสร็จภารกิจ เชื่อมั้ยผมฉีดน้ำเป็นนาทีๆ ยังไม่สะอาดเลยครับ ต้องไปล้างใหม่ จากนั้นผมเลยใช้สบู่เด็กล้างครับ เพราะมันจะอ่อนหน่อย ฉีดแค่น้ำเปล่าๆ ไม่สะอาดเลยแม้จะคิดว่าสะอาดแค่ไหนก็ตาม

      เรื่องแอลกอฮอลล์ ผมเคยคุยกับคนที่ผ่าเสร็จใหม่ๆ แล้วก็ดื่มเหล้า เห็นว่าแผลติดเชื้อครับ กลับไปนอน รพ อีกเกือบครึ่งเดือน (อันนี้เขาเล่าให้ผมฟังแต่อาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ด้วย เลี่ยงได้ก็ดีครับ)

      ลบ
    4. ผมคงไม่ดื่มภายใน2-3เดือนนี้แน่นอนคับ(T T)
      ใช้สบู่เด็กล้างหลังเสร็จภารกิจเหมือนกันคับ...
      ตอนนี้ทรมานกับการไปล้างแผลมากกว่าคับ โหดสุดๆๆๆๆ(T T)....
      แต่ก็ต้องไป ฮือๆ ทรมานทั้งกายและใจคับ ไปล้างทีน้ำตาไหลที ต้องไปทุกวันคับ
      อยากให้สะอาด จะได้หายไวๆ

      ลบ
    5. ของผมตั้งแต่ผ่ามา แล้วนอนโรงบาล 1 คืน.. จากนั้นก็ไม่ได้เยื้องกายเข้าโรงบาลอีกเลย คุณหมอก็ไม่ได้นัด เพียงแต่บอกว่า ให้ใช้ชีวิตตามปรกติแค่นั้น เวลาถ่ายเสร็จล้างน้ำเสร็จเอาสบู่ฟอกตรงแผลเลยตรงๆแค่นั้นเอง ประมาณ 1-2 อาทิตย์แผลก็จะเริ่มแห้ง จนน้ำเหลืองแทบจะไม่ไหล ตอนนี้ผมผ่ามา4เดือนแล้วครับ ถือว่าเริ่มเข้าสู่ภาวะปรกติแล้วครับ แต่ก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ปรกติ 100% ตรงที่เวลาเดินไกลๆ รู้สึกว่าก้นจะมีน้ำชื้นๆเล็กน้อย เอากระดาษทิชชู่ซับกระดาษทิชชู่จะหมาดๆนิดๆแค่นั้นเองครับ ไม่รู้ว่าเหงื่อหรือเปล่า แต่ถ้าเดินปรกติไม่ไกลก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ

      ลบ
    6. (ToT) ทำไมคุณหมอนัดผมทู๊กวันเรยยยยยยยยย
      ทรมานมากกกกกกกก ตอนล้างเจ็บมากกกกก คับ.

      ลบ
  56. เรามีข้อสงสัยค่ะ คือเป็นแผลรอบรูทวารมานานเกินปีแล้ว หาหมอก็ให้แต่ยากิน กะแช่ด่างทับทิม ไม่เคยหายขาด ทรมานมาก นอนไม่เคยหลับ ถามหมอว่าน่าใช่ฝีคัณสูตรป่าว หมอก็บอกไม่ใช่ แต่อาการเราเป็นเหมือนมาก แล้วตอนนี้แผลกว้างขึ้นทุกๆที ทรมานสุดๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เปลี่ยนที่รักษาดีกว่ามั๊ยคับ
      ปล่อยไว้นาน ทรมานใจ ทรมานกาย นะคับ
      แผลติดเชื้อขึ้นมา เรื่องใหญ่อีกนะคับ

      ลบ
    2. ถ้ารักษาแล้วไม่ดีขึ้น ลองเปลี่ยนคุณหมอไหมครับ ลองหาหมอเฉพาะทางดู

      ลบ
  57. คุณ Watcharaphon Samaksaman ลองเปลี่ยนหมอดูนะครับ เพื่อการวินิจฉัย

    ตอบลบ
  58. เข้ารับการผ่าตัดเหมือนกันค่ะ เขียนแชร์ประสบการณ์ไว้ อ้างอิงของคุณหมีอ้วนกลมอีกที

    http://kroopum.blogspot.com/

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดีใจครับที่บทความประสบการณ์ของผมมีส่วนช่วยครับ

      ลบ
    2. ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ไม่งั้นทรมานอีกแน่ๆ เป็นรอบที่สองแล้วค่ะ พอผ่าแล้วเลยแชร์ประสบการณ์ตามลิงึ์ แต่ปัญหาคือ พอ search ทาง google แล้วไม่เจอ ... ไม่รู้ตั้งค่าตรงไหน พอจะช่วยได้มั้ยคะ ^^
      ปล เด๋วจะเขียนประสบการณ์หลังผ่าอีก คุณหมอนัดตรวจอีกรอบนึงวันที่ 28 มิ.ย. นี้ค่ะ

      ลบ
  59. จากอาการที่อ่านน่าจะเป็น. มาประมาณ2เดือนแล้ว. ยังไม่เคยไปตรวจ. ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายแต่มีแต่ประกันสังคม รบกวนแนะนำ รพ ที่ค่าใช้จ่ายไม่สูง หน่อยน่ะครับ

    ตอบลบ
  60. ถ้าจ่ายค่าใช้จ่ายเองไม่สู้มาก. ที่ไหนบ้างรบกวนหน่อยน่ะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รพ จุฬาลงกรณ์ ในเกณฑ์ หมื่นกว่าบาท รวมค่าอัลตราซาวน์ น่าจะใกล้ๆ 2 หมื่น ... รอคิวเป็นเดือนค่ะ แนะนำว่าถ้ารอคิวขนาดนั้น ทำประกันเบี้ยประมาณ 2 หมื่น มีระยะรอคอย 30 วัน เท่ากับรอคิวที่ รพ รัฐ แล้วไปผ่า กับ อ.อรุณ ดีกว่ามั๊ยคะ อาจเสียส่วนต่างบ้างหรือซื้อดีๆอาจไม่เสียเลย ลองปรึกษาตัวแทนใกล้บ้านนะคะ มีของ aia ตัวที่จ่ายตามจริง เพราะเพิ่วผ่ามาก็ได้ประกันช่วยค่ะ

      ลบ
    2. ของผมโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ค่าใช้จ่ายเหมารวม 23000 บาทครับ ตอนแรกก็คิดว่าราคานี้แพงอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมาคำนวณแล้ว 23000 บาทผมก็ว่าคุ้มมากๆเลยครับ ถ้าคุณnirut phakdee พอไหว ขอแนะนำที่นี่เลยครับ
      http://recordsthai45rpm.blogspot.com/2014/02/blog-post_5.html

      ลบ
  61. สวัสดีค่ะ พอดีหาข้อมูลให้คุณพ่อค่ะ. คือท่านผ่ามา. 2 ปีกว่าแล้ว. ทั้งหมด 4 เมผ็ดเลยค่ะ. ที่ รพ จุฬา. คือตอนปรึกษา เจอคุณหมอ ชูชีพค่ะ. แต่ตอนผ่าตัด. ผ่ากับ. น่าจะคุณหมอ อรุณ. เพราะนักศึกษาแพทมาเยี่ยม. บอกว่าท่านเก่งที่สุดในเอเชียแล้ว... ผ่่านมาม1 เดือน. ขึ้นมรอีก 1 เม็ดค่ะ.บ้านอยู่ระยองค่ะ. พ่อเลย. ไม่อยากไปอีกมันไกล. แต่ก็ไม่เจ็บปวดเหมือนเดิม. แต่ปัจจุบัน ทีหนอง. และ. หนองแตกแล้ว. แม่บอกว่า. ลักษณะ. เม็ดฝี เหมือนกับหูดเลย. หรือเหมือนหงอนไก่. ฟังแล้วไม่สบายใจมากๆเลยค่ะ. กลัวเป็นมะเร็งค่ะ. ไม่ทราบว่า. ฝีคัณฑสูตร. มีลักษณะแบบนี้บ้างไม๊คะ. ขอบคุณค่ะ.

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผ่าแล้วก็มีโอกาสเป็นอีกครับ คุณหมอวิสัญญีที่ดูแลผมก็ผ่ามาแล้ว 2 ครั้ง บางคนผ่ามาแล้ว 6 ครั้งยังมีเลยครับ ถ้าจะให้ดีให้คุณหมอตรวจจะดีสุดครับ เนื้อตรงไหนที่มีการอักเสบเสียดสีบ่อยๆนานๆ มีโอกาสเกิดมะเร็งได้หมดครับ สมัยนี้มะเร็งเกิดง่าย ผมคิดว่าควรไปตรวจให้แน่ๆ สอบถามหมอเลยว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ เผื่อคุณหมอจะให้ตรวจเลือดหรือชิ้นเนื้อครับ

      ลบ
  62. ขอบคุณมากค่ะ. ต้องรีบพาไปหาหมอแล้วค่ะไม่สบายใจเลย

    ตอบลบ
  63. ผมก็เป็นเหมือนกัน แต่ไม่ได้ผ่า เพราะว่าเคยถามคุณหมอที่รู้จักกัน ผ่าอีก เดี๋ยวก็กลับมาเป็นอีก เลยตัดสินใจหาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพร และได้ลองทานภูคาวแบบแคปซูล ตอนนี้หายเป็นปกติแล้ว ใช้เวลาทานมาประมาณ 1 เดือน ไม่มีหนองและเลือดซึมออกมาอีกเลย

    ตอบลบ
  64. แวะมาเยี่ยมคะหายดียังคะ ช่วงนี้คนแอดไลน์มาปรึกษาบ่อย ทำให้นึกขึ้นได้ว่าเคยเป็นมาก่อน เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ย อิอิ

    ตอบลบ
  65. ผ่านไปจะครบ 1 ปีทีผ่า อาทิตย์นี้แปลกๆ รู้สึกเจ็บแปล๊บๆ วูบๆ ที่ก้น แต่ก็ไม่มีอะไรไหลออกมาเหมือนตอนเป็น กังวลเหมือนกันกลัวจะเป็นซ้ำ ทุกคนสบายดีนะครับ

    ตอบลบ
  66. ผ่า8/12/2557 บล๊อคหลัง นัด20 แผลยังไม่แห้ง ผมเลยซื้อยาฆ่าเชื้อแบบหมอให้กินต่อ5วัน ตอนนี้ซึมน้อย นัดอีก 17/1/2558 รูอยู่หา่งจากทวารทางขวาหน้าประมาณ1นิ้วครับมันมาใต้แผลเก่าครับ
    2วันแรกถ่านแล้วเหมือนทวารบวม เลยซื้อ มิลค์ออฟแมกนีเซียม มากินเลยค่อยดีหน่อย
    ของผมครั่งที่3 ครับต้องหายขาดไปเลย ครั้งแรก 2528 ครั้ง2 2538 นึกว่าหายไปแล้วยังมาอีก
    ผมว่ามัมทำงานเหมือรปลวกนะ พี่ๆท่านใดหาข้อมูลการป้องกันได้จะดีเลยครับ

    ตอบลบ
  67. น้ำเหลืองไหลออกเยอะมากครับ ทำให้รอบรูทวารแสบไปหมด ไม่รู้ว่าแพ้ผ้าอนามัยรึเปล่า ใครพอจะทราบวิธีแก้อาการแสบแบบนี้บ้างครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผ่ากี่วันแล้วครับ ผมใช้ทิชชู่แบบซับมันหนีบไว้และเปลียนบ่อบๆครับทำให้แห้งไว้ครับ

      ลบ
    2. ของผมมีอาการอักเสบ จากการติดเชื้อ จนในที่สุดคุณหมอจึงใช้วิธีขูดแผล (ผ่านมาได้ 3-4 วัน) ทำให้มีน้ำเหลืองออกเยอะเหมือนช่วงสัปดาห์แรกที่เพิ่งผ่าตัดมา ซึ่งก่อนที่ผมจะมีอาการอักเสบจากการติดเชื้อ ก็เหมือนจะมีอาการแสบรอบรูทวารแบบนี้ครับ ก็เลยอยากหาวิธีแก้ กลัวจะอักเสบอีก

      ลบ
  68. ผ่ามาแล้วครับ น้ำเหลืองน้อย แผลปกติ ติดอย่างเดียว ไม่ยอมถ่าย แม้จะกินยาระบาย

    เคสผม อ.อรุณบอก มีโอกาสหาย 90% (ไหว้ละ) ไม่ลึกเท่าไร

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอให้หาย 100% แล้วไม่กลับมาเป็นอีกนะครับ

      ลบ
  69. เมือคืนเกิดมีคล้ายเลือดซึมี่แผลคันด้วยเลยไปหาหมอ หมอบอกไม่เป็นไรเกิดขึ้ได้ เลยตัดไหมที่โผล่อยู่ ของผมครบเดือน 9/1/15 หมอนัด17/1/15 แต่ไปก่อนกลัวนะ ไปเจอคนมาตรวจต่อผมเลยถามเป็นคุณ olala เอง ครบปึพอคี ได้คุยกัน ขอให้หายไม่เป็นอีกกันทุกคนผมด้วยนะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เลือดซึมไปหลายสัปดาห์เลยล่ะครับ ที่สำคัญต้องระวังไม่ให้ติดเชื้อ พยายามซับให้แห้งตลอดวันไม่ให้อับชื้นจะช่วยลดคันได้ ด้วยครับ

      ลบ
    2. ของผมแผลไม่ซึมหลายวันแล้วเกิดมาเป็นเมื่อคืน หมอบอกเกิดขึ้นได้ แต่ผมกลัวนะหมอ

      ลบ
  70. ลืมไป หมอไม่ให้ยาให้ทำเหมือนเดิม กลัวนะครับหมอหมอนะไม่ได้เป็น

    ตอบลบ
  71. สรุป การผ่ามา 4 ครั้ง ทั้ง ฉีดยาชา และบล็อกหลัง
    - ส่วนมาก จะเกิดจาก เหล้า หรือของหมักดอง คือ ผิดศิล (สังเกตุ ก่อนเกิดจะมีเลือกออกมาก่อน หลังจาก กินเหล้า หรือ ว่า ของเผ็ดๆ
    o แก้โดยการ ไม่ผิดศิล คิดกุศล ทำสมาธิวิปัสสนา เพื่อทำลายกิเลศ ลด ละ เลิก
    - ไม่รู้อนาคต จะเกิด อีกหรือไม่ มีมีสติ แล้ว ทำแผ่เมตา
     สังเกตุ ทอนสินอักเสบ ลำไส้อักเสบ เชื้อแบคทีเรีย และโรคภูมิแพ้ ต่างๆ อาหารการกินต่างๆ ต้องระวัง ไม่ประมาท และ พยายามเลี่ยงให้ได้ รักษาความสะอาดให้มาก เน้นย้ำ ไม่ประมาท ต้อง มีศิล มี สมาธิ มี ปัญญา จะรอดพ้นจาก โรคเวน โรคกรรมนี้ได้
     สถานที่ ผ่า
    • 8 หมื่น บำรุงราษฎร์ บริการดีมากๆ
    • 5 หมื่น สินแพทย์ บริการดีมากๆ แต่ราคา กันเอง
    • 4 หมื่น เดชา ไม่มีความเห็น(ฉีดยาชา)

    ตอบลบ
  72. 1 แบบ คว้านเพราะ แผนใหญ่มาก ๆ อยู่ได้ 2 ปี
    2 คุณหมอไม่บอก แต่อยู่ได้ ุ6 เดือน(ฉีดยาชา)
    3 น่าจะเป็น แบบลีฟ กับคุณหมออรุณ อยู่ได้ 9 เดือน
    ครั้งที่ 4 ก็เลยกลับมาสินแพทย์อีกรอบ น่าจะเป็บแบบคว้าน + จี้ไฟ
    และไม่เลือกคุณหมอเลย แต่แผลน่าจะ 2 เดือนหาย เพราะไม่ได้หยุดงานเลย
    (หมอบอกแนะนำให้หยุด 2 อาทติย์)
    แต่คุณหมอแจ้งมาว่าโอกาศกลับมาเป็นอีกน้อยมาก (แอบดีใจนิดๆ คิดสะว่า มันไม่มีอะไร เกิดแล้วไม่ดับ หรอก ถ้าเขามาหา หรือมาเยี้ยมเหยือนเป็นครั้งคร่าว เดียวเขาก็จากไป นี้แหละความไม่เที่ยง มีเกิด ก็มีดับ เป็นธรรมดา และส่งสัยจะเป็นการมาเตือนพวกเรา ไม่ให้เหินห่างจาก ธรรมะ ของพระพุทธองค์)
    (นอน รพ4 วัน ห้องเดี่ยว)
    (ลองไปฟัง พุทธวจน-โสดาบัน ตอน ระวังตายคาประตูนิพพาน คล้ายมากๆ มีในพระสูตรด้วยนะ เป็นมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยพุทธกาลเลย)

    ตอบลบ
  73. มีความกังวลใจครับ หลังนัด Follow Up อาการแล้ว คุณหมอบอก ไม่ต้องมาแล้ว ยกเว้น ปวด ค่อยมา

    แผลที่ผ่าปกติแล้วครับ มีคันบ้าง แทบไม่เหลือรอย .. แต่ผมกังวลว่ามันจะขึ้นใหม่อีกที่ ใกล้ๆในรูทวาร มันเจ็บ จึ้กๆ แป๊ปๆ บางวัน .. ผมไม่มั่นใจว่าใช่แผลผ่าตัดหรือแผลเย็บหรือไม่ ผมผ่า 27 ธ.ค 57 จนถึงวันนี้ 28 ก.พ 58 แผลผ่า มันควรจะหายได้ยังครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมผ่า9ธคจะครบ3เดือนก็ยังมี แปบๆ คันๆบ้างเหมือนข้างในยังไม่ประสานดี กินผักผลไม้มากๆกินข้าวให้น้อยลงหน่อย ของผมเป็นห่างจากทวารมาทางหน้าประมาณ1นิ้วครับ

      ลบ
    2. อย่างที่ผมบอกเลยครับ แผลที่เพิ่งผ่าหาย ปุป จุดใหม่อาจขึ้นอีกครับ ว่าจะเข้าไปตรวจแีกละ ส่องดู มันแปลกๆครับ

      ลบ
  74. ผมเพิงไปพบอ.อรุณ แต่ลืมสอบถามค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด พออีกวันโทรไปสอบถามพยาบาลเสนอราคามาอยู่ที่100,000-120,000.- ที่บำรุงราษฏร์ ไม่รวมค่าตรวจชิ้นเนื้อครับ เลยงง กับราคาว่าทำไมมันแปรผันเยอะขาดนี้ครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมบล๊อคหลังนอน1 คืน2เตียง ประมาณ 7 ครับ เห็นท่านอื่น ยาชาห้องเดี่ยว 4 ก่วาๆเองครับ ต้องจองเลย

      ลบ
    2. ขอบคุณพี่นนทวิทย์ครับ เพิ่งวางสายจากอาจารย์อรุณเมื่อสักครู่ครับ ท่านบอกว่า ดมยา ฉีดยานอนหลับก็คงอยู่แถวๆ 5-6หมื่นบาท แต่ถ้าบล๊อคหลังก็ราว7-80000หมื่นบาทครับ อาจารย์อารมณ์ดีครับ มีถามเป็นห่วงเป็นใยแต่ก็มีแอบฮาๆนิดๆครับ

      ลบ
    3. นัดผ่าเมื่อไหรครับ มีเบอร์หมออรุณได้ไงครับขอหลังไมล์หน่อยครับ. ขอผม3เดือนกก่าแล้วพักนี้รู้สึกคันๆ ผมมีแผลเก่าแบบคว้านไว้แล้วด้วย

      ลบ
    4. ไปตรวจซ้ำจะดีกว่าครับ ผมหายมาเป็นปี ล่าสุดปล่อยท้องผูกหลายรอบ เกิดอาการคันๆแถวแผลเดิม เลยกลับไปตรวจ อ.หมอบอกว่า มีแผลปลิ เพราะแนวผ่าตัดอยู่ตรงฝีเย็บพอดี ต้องรอเป็นปีกว่าจะแผลแข็งแรงครับ

      ลบ
  75. เห้อ สุดท้ายก็ขึ้นอีกจนได้ผม อ.เอาออกไม่หมด

    ตอบลบ
  76. ที่เก่าเหรอครับแล้วหมอบอกออกไม่หมดเหรอครับ.ที่ไหนครับ แล้วตอนเป็นนานแค่ไหนครับถึงได้ผ่า แล้วผ่ามากี่เดือนแล้วครับ ทำให้ผมชักกลัวผมผ่า สามเคือนกว่าแล้วคัรบตอนนี้ชักคันๆ แต่ตอนเป็นได้ประมาณ อาทิตย์ นัดผ่าเลยหลังจากเจอเม็ดที่แถวก้นมาตรวจเลย เคยผ่าแบบควานมานานแ้ลว. ยังไงขอให้จบในครั้งนี้ไปเลยครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผ่ากับ อ.อรุณครับ มันขึ้นที่ใหม่ใกล้ๆกัน แต่ท่อเดียวกัน อ.หมอ ฟันธงแล้ว ตอนนี้รอนัดตรวจอีกรอบครับ อาจมีผ่าตัดเล็กด้วย เห้อ แม่งรบกวนชีวิตผมมากๆๆๆๆ

      ลบ
    2. ขอให้รอบนี้หายเร็วๆ และไม่กลับมาเป็นอีกนะครับ

      ลบ
  77. ท่านใดจะไปหาหมอถามให้ทีครับ. ตรวจทุกปีดีไหม ถ้าพบตอนเป็นใหม่ๆที่ยังไม่แทงออกมาที่ก้นกินยา ไม่ต้อวผ่าจะหายไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เท่าที่ทราบ คือ ไม่สามารถตรวจล่วงหน้าได้ เพราะท่อหนองมันยังไม่ทะลุออกมาที่ผิวด้านนอกก็จะตรวจไม่พบ คุณหมอจะคลำหาจากปลายย้อนกลับไปที่ปลายท่อด้านในนะครับ

      ส่วนเรื่องยากินปัจจุบันยังไม่มีครับ เป็นโรคที่เกิดซ้ำได้อีก ต้องดูแลรักษาการกินให้ดี อยากให้ท้องผูกบ่อยๆ ดื่มน้่ำเยอะๆครับ

      ลบ
  78. ของผมเป็นมา 3 เดือนละ ไปกรีดระบายมา 3 รอบ สุดท้ายต้องไปที่โรงพยาบาล จุฬา ไปครั้งแรกไปตรวจที่คลีนิค นอกเวลา เจอหมอ ชาญจิโรจน์ หมอตรวจโดยเอาอะไรไม่รู้สอดเข้าไปรูก้น ไอ้เราก็เกร็งกลัวอึจะออกมาแทน ตอนตรวจ สรุปว่าหมอหาแผลไม่เจอ หมอบอกคาดว่าจะอยู่ลึก ผ่ายากแต่ถ้าผ่าเสร็จจะใช้ท่อยางเล็ก ๆ ใส่ไว้รูที่ผ่าเอาไว้ระบายน้ำเหลือง แล้ว2 อาทิตย์ค่อยมาเอาออก แต่หมอบอกว่า โรคนี้ อาจจะผ่าได้ หลายรอบ นะ ฟังแล้วเศร้าเลยเรา สรุปก็ถามค่าใช้จ่ายหมอให้พยาบาลเป็นผู้แจ้ง เค้าแจ้งไว้โดยประมาณ ถ้าผ่า นอกเวลาทำการ ประมาณ 13,0000 ค่าห้องประมาณ 4,400 ต่อคืน แต่ถ้าผ่าในเวลาราชการ เค้าบอก ประมาณ 65,000 แต่ทั้ง สองกรณี ต้องจ่่ายเงิน สด นะ ไม่รับประกัน เค้าให้เราไปทำเบิกกับประกันเอง ได้คิวผ่า 15/4/58 ยาวๆกันไป ตอนนี้กำลังคิดเพราะค่าใช้จ่าย ขนาดผมเลือกในเวลาผ่าราชการ นะก็ 65,000 แล้วครับ หรือราคานี้เหมาะสม คิดอยู่ครับ ต้องสำรองเงินไปก่อน กำลังมองหารพ.เอกชน ที่เค้ารับประกัน ส่วนใหญ่จะรับกันหมด แล้วราคาจะเท่าไร พี่ท่านใดทราบรบกวนหน่อยแนะนำนิดนึงครับ ว่าผ่าที่ไหนดี ผมอยู่ แถวพระราม 2 ครับ ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แพงมากเลยครับ ผมไม่เคยไปสอบถามราคา รพ.จุฬาฯ เลย แต่ อ.หมอ ก็บอกว่าราคาใกล้เคียงกับเอกชนเนี่ยล่ะคับ

      ลบ
    2. บางประกอก9ใกล้กันไหม คุณหมออรุณ อยู่วันพุธ เช็กอีกทีนะครับ

      ลบ
  79. สวัสดีครับ ผมอยากจะแบ่งปันประสบการณ์หลังจากได้ผ่าฝีมาได้หนึ่งเดือน ผ่าเมื่อ28 กพ 58จุดประสงค์เพื่อที่จะมาเติมความกล้าเพิ่มความมั่นใจว่าโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยวิธีการผ่าตัด วิธีเดียวเท่านั้น ไม่สามารถทานยาให้หายขาดได้
    เริ่มจากปลายเดือนธันวา มันมีก้อนเนื้อนูนๆปูดขึ้นที่รอบๆรูก้น ที่แรกนึกว่าเป็นริดสีดวง เพราะตัวเองก็เป็นอยู่แล้ว แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมันแตกได้ เวลามันแตกมันจะมีเลือดปนน้ำเหลืองไหลออกมา
    ตอนนั้นกลุ้มใจมากนี่ตูเปนอะไรวะเนี่ยเป็น..เนื้อร้ายรึป่าว พาเอากลุ้มใจไปสารพัด หลังจากที่มันแตกครั้งแรก มันก้อหายไปเป็นเดือน และมันก็กลับมาใหม่ ช่วงต้นเดือนกุมภา ที่นี้มันมีหนองพร้อมกับมีอาการปวดเพิ่มขึ้นมาด้วย
    มันจะเป็นก้อนแข็งๆรอบๆรูก้น พอเราเอามือสัมผัสเราจะรู้ได้เลยว่ามันมีก้อนๆอยู่ข้างใน
    สุดท้ายทนไม่ไหมเปิดเน็ตๆ หาข้อมูล ไปนี่ก่อนเลยโรงพยาบาลพญาไท2 ไปพบหมอธีระสันต์ แผนกลำไส้ใหญ่และทวารหนัก พอเล่าอาการให้แกฟังพร้อมโชว์ก้นให้แกดู คุณหมอท่านก็สรุปได้ทันทีเลยว่าผมเป็นฝีคัณฑสูตร ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง
    สามารถรักษาให้หายขาดได้ "ด้วยการผ่าตัดเท่านั้น ทานยาไม่หายนะครับ" เคสผมนี่หมอบอกว่าเป็นแบบตื้น ไม่ลึก แต่ยังไงก้อต้องผ่าตัด ผมนี่ ช๊อตไปสักพัก เพราะเกิดมาไม่เคยผ่าตัด ใจคิดไปว่านี่เราต้องผ่าตัดหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ ฝันไปป่าววะ

    หลังจากนั้นก็กลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติมทำการดับเบิ้ลเช็คดีกว่า อีกสามวันต่อมา ผมก็ขับรถไปนี่เลยครับโรงพยาบาลบำรุงราฎษ์ เพื่อไปพบกับคุณหมออรุณที่เลือ่งชื่อลือชาทางด้านฝีเลยดีกว่า พอไปถึงเปิดก้นให้หมอดูแกก็บอก ว่าผมเป็นฝีคัณฑสูตร
    หมออรุณท่านบอกว่า ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรรักษาได้แต่ต้องผ่าตัด ตอนนั้นผมไม่คิดมากละ หายกลุ้มละ เราเป็นจริงๆนี่ ยอมรับมันไป มันรักษาให้หายได้นี่นา...
    ทีนี้ผมก็ได้ศึกษาและปรึกษากับคุณหมอก็ทราบว่าการผ่าตัดนั้นมีอยู่สองแบบ
    1.แบบ life ของอาจารย์อรุณ โอกาสหายขาด 85% แผลผ่าตัดไม่ใหญ่มาก หูรูดไม่โดนทำร้าย อั้นอุจาระ ได้ปกติ
    2.แบบผ่าเปิดไปที่หูรูด อันนี้โอกาสหาย 90-95% เนื่องจาก หมอสามารถเลาะท่อหนองที่เข้าไปถึงรูก้นได้สะดวก เรียกง่ายๆว่าเข้าถึงตัวกันเลยทีเดียว แต่หูรูดอาจโดนทำร้าย อั้นอุจาระ ไม่เหมือนเดิม
    การผ่าทั้งสองแบบนี้ หมอทีเชี่ยวชาญแผนกนี้โดยตรง ผมว่าสมารถผ่าได้ทั้งสองแบบ

    ตอบลบ
  80. ส่วนตัวผมเลือกผ่ากับหมอธีระสันต์ ด้วยเหตุผลดังนี้
    1.เนื่องจากท่านเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์อรุณ และเรียนต่อที่เดียวกันเป๊ะๆ
    2.แต่เหตุผลส่วนตัวที่สำคัญของผมคือ หมอธีระสันต์หนุ่มกว่าหมออรุณ หู ตา สัมผัส น่าจะดีกว่าหมออรุณซึ่งตอนนี้อายุท่านเกือบ70แล้ว ( ไม่ใช่หมออรุณไม่เก่งนะครับ แกเชี่ยวชาญวิเคราะห์ได้แม่นยำมาก )
    อันนี้เหตุผลส่วนตัวล้วนๆนะครับ
    ทีนี้มาคุยกันเรื่องวิธีผ่าตัด ผมคุยกับอาจารย์ธีระสันต์ เยอะพอสมควร ท่านก้อบอกว่า แบบ life ของอาจารย์อรุณ หมอก้อสามารถทำได้ ซึ่งเราเองก็เลือกได้ว่าจะทำไหม
    แต่เคสผม หมอบอกผมว่าผมเพิ่งเริ่มเป็น แบบตื้นเราควรจะใช้วิธีแบบผ่าเปิด จากฝีไปที่รูก้นก้อไปถึงจุดกำเนิดฝีเลยดีกว่า เพราะโอกาสหายในครั้งเดียวมีสูง ทีนี้ก็มีคำถามตามมา
    หูรูดผมจะใช้งานได้ปกติไหมครับ....
    อาจารย์ธีระสันต์บอกว่า เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันดีกว่าแต่ก่อนเยอะ เทคนิคดีขึ้น และหมอเชี้ยวชาญด้านนี้โดยตรง ไม่ต้องกังวล หูรูดใช้งานได้ปกติ หมอจะผ่าก้นคุณปะหนึ่งผ่าก้นตัวเอง

    พอผ่าเสร็จวันแรกก็ปวดนิดหน่อยเดินได้ นอนโรงบาลคืนเดียว ต้องใส่ผ้าอนามัยเอาไว้ตลอดเพราะจะมีเลือดไหลที่แผลตลอดเวลา วันแรกๆจะออกเยอะ เป็นอย่างนี้สัก 14วันเลือดก้อหยุดไหล แต่ยังคงมีหนองอยู่ก็หมั่นเช้ด หมั่นล้างเอา เรื่องอาหารทานได้หมดทุกอย่าง ผมเน้นไข่ต้ม
    เน้นโปรตีนเพราะจะทำให้แผลหายไว
    การขับถ่าย ช่วงอาทิตย์แรกลำบากหน่อย เพราะว่าจิตใต้สำนึกเรามันบอกว่า เฮ้ย ก้นเจ็บนะเว้ย ก้นเจ็บนะเว้ย ทำให้อึไม่ค่อยออก แน่นท้องมาก เวลา ปวดก้อไม่กล้าเบ่ง ช่วงนี้แหละทรมานสุดสำหรับผม ยาถ่ายจัดสารพัด นมเปรี้ยว มะขามแขก โยเกิต มิลแมกนีเซีย ทุกอย่าง อึ แทบ ไม่กระดิก
    แต่พอผ่านสัปดาห์แรกไปก้อจะดีขึ้น ตอนนี้เดือนผ่านไป อึ ปกติแล้วครับ
    ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหว อาทิตย์แรกยังเจ็บๆอยู่ พออาทิตย์ที่สองสบายมาก เดินคล่องแล้วครับ เวลานั่งอาจมีเจ็บนิดๆ หาหมอนมารองเอา

    สรุป
    ผมอยากให้ทุกคนเป็น มีกำลังใจที่ดี หาหมอทางด้านนี้โดยตรง เราไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงรักษาไม่หาย เราแค่ยอมรับและกล้าที่จะเผชิญต่อสู้กับมัน ทุกคนสามารถผ่านไปได้ ผมเข้าใครความรู้สึกของเพื่อนๆทุกคนที่เป็นว่าพอรู้ว่าเป็นมันรบกวนจิตใจขนาดไหน แต่ผมอยากให้ทุกคนผ่านมันไปให้ได้
    ผมจึงอยากที่จะเขียนแบ่งปันเรื่องราว ประสบการณ์ในการฝ่าฝีครั้งนี้ให้ทุกคนได้รู้ ผมไม่อายที่จะบอกใครๆเลยนะครับว่าผมเคยเป็นฝีคัณฑสูตร ใครที่รู้ว่าเป็นรีบไปหาหมอ รีบจัดการ เจอเนิ่นๆผมว่าหายง่ายหายไว ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ
    สทั้งนี้ผมต้องขอบคุณ คุณหมีอ้วนกลม คุณolala ครูปุ้ม ซึ่งผมไม่เคยได้เจอและรุ้จักมาก่อน แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในกำลังใจของผมเช่นกัน ที่ทำให้ผมรู้ว่า ผม ไม่ เดียว ดาย
    ใครมีปัญหาสามารถสอบถามผมได้เลยที่เมลล์ vigunr@hotmail.com

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดีใจนะครับ ที่บทความของผมได้เป็นกำลังใจให้
      ขอให้หายขาด ไม่ต้องผ่าตัดหลายรอบนะครับ
      พยายามทานน้ำเยอะๆ อย่าปล่อยให้ท้องผูก จะช่วยไม่ให้เป็นอีกได้ครับ

      ลบ
  81. ตอนผมผ่าครังแรก ปี2528 นอนตั้ง10คืนได้มั้ง ปี 2538 นอน7คืน ปี2557 เดียวนี้นอนคืนเดียว แล้วต้องกลับมาแช่ก้นไหมครับ สมัยก่อนใช้ด่างทับทิม
    หมอนัอเมื่อไหรคับ ถามหมอให้ทีครับ ถ้าตรวจทุกปีแล้วพบภายในกินยาจะหายไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เพิ่งไปหาหมอมา ไปตามนัด แผลดีขึ้นมาก..กรณีผมผ่าแล้วไม่ต้องแช่ก้น แต่หมอบอกให้ล้างก้นบ่อยๆด้วยน้ำสะอาด บ่อยเท่าไหร่ก็ได้ คันก็ล้างเลย แสบก็ล้างเลย แฉะก้นก็ล้าง บ่อยเท่าที่ต้องการคับ ไม่ต้องแช่ด้วยน้ำอุ่นเช้าเย็นหรือแช่กับด่างทับทิม ตอนแรกผมก็งงๆเพราะขัดกับหลักโรงบาลบำรุงราฎษ์ แต่ผมก็ทำตามนะครับ ส่วนตัวผม ผมว่าวิธีไหนก็ได้ครับ แต่ผมชอบล้างบ่อยๆเพราะผ่าเสร็จใหม่ๆมันแฉะก้นมากๆ พอล้างเสร็จก็สบายก้น

      ลบ
  82. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
    2. ผมตอนนี้สี่เดือนแล้ว บางที่มันคันๆ แสบๆเหมือนเวลาเดินมันสีกันเอายาทาแก้คันมาทาหรือวาสลีน

      ลบ
  83. สอบถามคนที่ผ่าครับ หมอ อรุณ ครับ แกมีคำแนะนำเรื่องส้วมที่ใช้บ้างไหมครับ พอดีบ้านผมมีแต่ส้วมซึม ไม่มีส้วมนั่งเลย ถ้าสมมุติ ผมต้องไปผ่า นี่ต้องไปหาซื้อส้วมนั่งเคลื่อนที่มาไหมน่ะครับ >_>"

    ปล. ของผมเป็น ฝี ตรงแก้มก้นด้านในทางซ้าย เยื้องๆ กับ ลูกอัณฑะ ห่างจาก หูรูด 2 - 3 เซน เคยไปหาหมอ รพ. กลาง บอกว่าน่าจะเป็นฝีคัณฑสูตร ซึ่งก็น่าจะแบบนั้น เพราะ พอฝีผมแตก นี่ มันไม่ยอมปิดเลยน้ำเหลืองไหลอยู่ตลอด หรือ ปิดก็เต็มที่แค่ 1 - 2 วัน ก็จะบวม แล้วก็แตกประจำ มีใครเคยเป็นเคส ตรงนี้บ้างไหมครับนี่ เปิดเน็ท เจอแค่คนเดียว คนนี้ตาม link ข้างล่างที่คล้ายๆ กัน

    http://haamor.com/webboard/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/10804/

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ส้วมแบบไหนก็ได้ครับ เพราะผ่ากับอาจารย์อรุณแผลจะเล็กมากเจ็บหนักๆก้อแค่วันแรกๆ อึ ลำบากก้อแค่ช่วงอาทิตยืสองอาทิตย์แรกครับ ผมว่าไม่มีปัญหา

      ลบ
    2. เป็นที่คล้านผม ผมผ่ามา4เดือนก่าแล้วครับ

      ลบ
    3. ของคุณ nontavit ทางขวาสินะครับ ของผมนี่ทางซ้าย กำลังใช้สมุนไพรอยู่ ถ้าไม่ไหวจริงก้ว่าจะไปหาหมออรุณฉลองวันเกิดเลยนี่ละครับ >_>

      ลบ
    4. ผมว่าถ้าจะถึงเวลาผ่าตัดจริงควรใช้โถแบบนั่งครับ เพราะจะเจ็บแผลมาก

      ลบ
  84. http://bumrungrat.blogspot.com/
    ผมเพิ่งไปผ่ามาวันที่ 21 เมษา 58 ครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หายเร็วนะครับ ไม่รู้ว่าข้างในกว่าจะหายกี่เดือน

      ลบ
  85. เหมือนเห็นเลยครับ กินอะไรอยู่ครับ จะกินกันไว้บ้าง ใจผมคิดว่ากินน่าจะหายแต่ใช้เวลานานเพาะว่ามันอยู่ข้างในมองไม่เห็น ว่าเคยอ่านเจอที่ไหนสักเห่งกินไป7เดือน คุ้มนะไม่เจ็บตัว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมกิน เพชรสังฆาตหมดไป 6 กระปุกละ ดีขึ้นนะ ว่าจะหยุดกินละ ถ่ายทุกวันเลยผม อาการยุบยิบๆยังมีอยู่ตลอด คิดมากทุกวัน 555 ช่างมัน ชีวิต

      ลบ
    2. หมอว่าไงครับ แผลข้างในยังไม่หายดีม้ั่งครับ ขอผมจะห้าเดือนบางที่ยังคันๆ แล้วมันแปลบๆข้างในบ้าง มองดูทุกวัน ผมมีแผลเก่าน่านมากแล้วด้วย

      ลบ
    3. เพื่อนสนิทผมก็เพิ่งไปผ่ามา 2 เม็ดที่ศิริราช วิธีแบบเดียวกันเลย

      บอกตรงๆ ทำตัวให้ถ่ายปกติ อย่าท้องผูก กินผัก กากใย ช่วยได้ครับ ของผมเหมือนจะยุบไปครับ แต่มีอยู่ บอกไม่ถูกเหมือนกัน หมอบอก หายแล้ว แต่ผมมีอาการกังวลอยู่+รอยแผล และ ท่อที่ขึ้นใหม่ ซึ่งหมอบอดมันจะยุบไปเอง / บางวัน บางจังหวะ มี เจ็บ จี๊ดๆ แปล๊บๆครับ

      ลบ
  86. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  87. แปลก แอะ พอผมเลิกกินยาสมุนไพรเพชรสังฆาต อาการต่างๆ หนักหัวหน้ามืด เหมือนตอนก่อนผ่าฝี มันกลับมาอีก พอลองไปส่องดู แผลใกล้ๆที่ผ่าตัดตรงรอยผ่า(ไม่ใช่จุดที่เอาฝีออก) มันเต่งๆ และมี นูนๆ ตุ่ม ที่คุณหมอบอกมันจะหายไปเอง มันดันเต่งขึ้นอีก

    เวรแท้ๆ สงสัยต้องกิน สมุนไพรเพชรสังฆาต ให้หายขาด ก่อนหน้านี้ผมกินไป 6 กระปุก โอเค ใช้ชีวิตปกติมากๆ อาการแทรกซ้อนไม่มีเลย ก็นึกว่าหายแล้วเลยหยุดกิน แต่แล้วก็ มีอาการลางบอกว่ามันอักเสบเกิดขึ้นอีก

    ตอบลบ
  88. - บำรุง 70-80 /2day (รวม 4 คน)
    - สินแพท 50 / 3 day (เดี่ยว)
    - เดชา 30 -40 / 2 day (เดี่ยว แต่ยาชานะ)

    ตอบลบ
  89. แนะนำ ต้องหาหมอ ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เท่านั้น นะ
    เพราะเป็นโรคเฉพาะทาง จริงๆ

    ตอบลบ
  90. ผมผ่ามาห้าเดือนแล้วครับ แต่ยังไม่หาย มันยังมีหนองอยู่ตรงรอยผ่าตัด ผมกลัวมากครับ กลัวจะเป็นแผลติดเชื้อ เดือนหน้า 14 ธ.ค. หมอจะนัดดูแผลรอบ หกเดือน ถ้ายังเป็นอีก อาจจะรื้อแผลใหม่ มีคำแนะนำการดูแลหรือกินยาอะไรมั้ยครับ ตอนนี้ ผมล้างแผลเช้าเที่ยงเย็น และตอนขับถ่ายอุจจาระมา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เห็นคุณหมอที่ผมรักษาแกบอกว่าใช้ร่างกายดูแลตัวเองดีที่สุด ยิ่งใช้ยาฆ่าเชื้อมาก มันจะฆ่าเชื้อดีไปด้วยนะครับ ผมทำตามที่แกบอกก็หายเร็วนะครับ

      ลบ
  91. ขอบคุณครับ คุณหมีพู สำหรับข้อมูลที่ดีๆ สำหรับโรคนี้ ผมก็ได้ผ่าตัดกับ อ. อรุณ มาแล้ว 2 เดือนเศษ
    ก็ยังไม่หายดี ยังไงก็ขอให้คุณหมีพูพบแต่ความสุขความเจริญและหายขาดนะครับ

    ตอบลบ
  92. ผมผ่ากับหมออรุณมาได้ประมาณ 1 เดือนครับ สองอาทิตย์แรกแผลก็ดีขึ้นมาก หนองไหลไม่เยอะ แต่แล้วก็เกิดเหตุท้องเสียถ่ายเหลว ทำให้หนองกลับมาไหลเยอะอีก มิหนำซ้ำรูฝีที่ปิดไปแล้วก็เปิดกลับมาใหม่และมีหนองไหลออกมาอีก กลับไปหาคุณหมออีกรอบ ก็ได้ยาปฏิชีวนะมาทาน 10 วันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย (แถมทำให้ร่างกายอ่อนแอลงเยอะ ทานอาหารไม่ได้เลย น้ำหนักตัวลดลงอย่างน่าตกใจ) หลังจากยาหมดก็ไปพบคุณหมอ คราวนี้คุณใช้เกลือเงินจี้ที่รูฝีเลยเพราะหนองยังไหลอยู่ (แต่แผลที่ผ่าตัดก็ดีไม่มีอะไร) ทำให้คราวนี้รูฝีเปิดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แล้วหนองไหลเยอะขึ้นใน 2-3 วันแรก ตอนนี้ผมตัดสินใจแช่ก้นด้วยน้ำอุ่นผสมด่างทับทิม (บางทีก็ใช้เกลือแทน) เพราะคิดว่าต้องรักษาความสะอาดอย่างเดียวเท่านั้นที่จะช่วยลดการติดเชื้อ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ

    เป็นกำลังใจคนที่กำลังเป็นครับ (ขอให้กำลังใจตัวเองด้วย) และขอให้คนที่หายแล้วไม่กลับมาเป็นอีก โรคนี้ไม่ร้ายแรงแต่ทำให้เครียดมากครับ ทำให้จิตตกสุดๆ เลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมซื้อยามากินเพิ่มหมอบอกไม่ต้องก็ได้ เพื่อความสบายใจ ผมก็นำ้หนักลดผมกินให้น้อยลงจะได้ถ่ายน้อย กินของที่มีกากใย ตอนนี้ปีแล้วครับก็ยังกลัวๆ บางที่ก็คันๆ ยังมองก้นผ่านกระจกบ้าง

      ลบ
  93. มารายงานความคืบหน้าครับ หลังจากที่ดูแลทำความสะอาดอย่างดี ขับถ่ายปกติเป็นเวลา แช่ก้นด้วยน้ำอุ่นผสมด่างทับทิมและเกลือวันละ 3 ครั้งมาประมาณ 10 วันแล้ว ตอนนี้รูฝีขนาดเล็กลงมากจนเกือบจะปิดแล้ว แต่ยังมีหนองซึมๆ ออกมาบ้าง สัปดาห์หน้าไปพบคุณหมอแล้วจะมารายงานอีกครั้งครับ

    ตอบลบ
  94. ไปพบคุณหมอมาแล้วครับ นึกว่าจะหายดีแล้วเพราะรูปิดไปแล้ว แต่หมอเห็นปั๊บก็บอกไม่หาย (ใจแป้วเลยผม) แล้วก็ขอฉีดยาชาเลย คราวนี้หมอจัดการกรีดเปิดผิวหนังตามร่องก้นออกมาและเข้าไปขูดเนื้อเยื่อซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นโพรงที่ไม่ยอมปิด แผลยาวประมาณ 4 ซม.ได้และใช้ผ้าก๊อซอุดไว้ หมอบอกว่าคราวนี้น่าจะหายละ นัดอีกที 1 เดือนให้หลัง ผ่านมาได้สองวันก็ยังมีเลือดและหนองไหลออกมาเยอะเหมือนกัน ต้องคอยเปลี่ยนผ้าก๊อซทุกๆ 2 ชั่วโมง

    ตอบลบ
  95. จะปีแล้วครับสำหรับผมที่ผ่าฝีกับคุณหมอธีรสันต์ ตอนนี้ไม่มีฝีที่ก้นแล้วครับ แผลหายสนิท ผมโชคดีที่หายด้วยการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว ผมเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านนะครับ ว่าโรคนี้สามารถหายได้ ขอให้ อดทน ตัดใจผ่าตัดซะ กินยาไม่หายหรอกครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
    ใครอยากสอบถามก้อเมลมาหาผมได้ครับ
    vigunr@hotmail.com ยินดี

    ตอบลบ
  96. 19 มกราคม 2559 ไปพบคุณหมออีกครั้ง แผลปิดไปแล้วบางส่วนและก็ไม่มีอะไรซึมออกมา คุณหมอบอกไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เดี๋ยวแผลก็จะค่อยๆ ปิดไปเอง แล้วก็ไม่ต้องนัดมาพบแล้ว ผ่านไปอีก 2 อาทิตย์ แผลก็ปิดหมดเรียบร้อย

    นับจากวันที่ 22 ธันวา 2558 ที่หมอเปิดแผลอีกครั้ง นี่ก็ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้วครับ ทุกอย่างเรียบร้อยหายดีแล้วครับ ขับถ่ายปกติดีครับ กำลังจะกลับไปเล่นกีฬาอีกครั้งครับ ขอให้ทุกคนโชคดีและหายเร็วๆ ครับ

    ตอบลบ
  97. ไปตรวจกับคุณหมออรุณมา ประเมิณราคาค่ารักษา 90,000-110,000 โรงพยาบาลบำรุงราษ ไม่รวมค่ายาและตรวจชิ้นเนื้อ ราคานี้แพงไปไหมคับ

    ตอบลบ
  98. ใช้วิธีการวางยา/บล็อกหลัง/ฉีดยาชา? ครับ แล้วนอนโรงพยาบาลกี่คืนครับ ราคาจริงน่าจะถูกกว่านี้นะครับ

    ตอบลบ
  99. บล็อกหลัง และนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืนครับ ค่ารักษา 96,000 ครับ ตอนนี้ผ่านไปแล้วเดือนกว่าๆ รู้สึกปวดอีกแล้วคับ หมอนัดพบ 25 เมษานี้ ไม่รู้ว่าจะได้ผ่าอีกรอบหรือป่าว

    ตอบลบ
  100. ใช้สิทธิ์ประกันสังคมผ่าตัดได้ไหมครับผมเป็นมา4-5ปีได้

    ตอบลบ
  101. ใช้สิทธิ์ประกันสังคมผ่าตัดได้ไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ประกันสังคมใช้ได้ครับผมเคยใช้ตอนผ่าครั้งที่สอง

      ผมเพิ่งไปผ่าครั้งที่3เมื่อวานนี้ใช้ สปสช เสีย30บาท

      ลบ
    2. ประกันสังคมใช้ได้ครับผมเคยใช้ตอนผ่าครั้งที่สอง

      ผมเพิ่งไปผ่าครั้งที่3เมื่อวานนี้ใช้ สปสช เสีย30บาท

      ลบ

โปรดแสดงความคิดเห็นที่ไม่ผิดกฎหมาย และเป็นแง่บวก